ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์

ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา การส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ไทยมีอัตราการเติบโตสูงถึง 4% สูงกว่าความต้องการรถยนต์ของโลกที่ขยายตัวขึ้นกว่า 3% โดยเฉพาะในครึ่งปีแรก 2017 ไทยมีการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์เป็นมูลค่ากว่า 7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เติบโตจากครึ่งปีแรก 2016 ถึง 12%

ประเทศคู่ค้าสำคัญของไทย ประกอบไปด้วย กลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ของโลกอย่างญี่ปุ่น, สหรัฐ และกลุ่มตลาดใหม่อย่างอินโดนีเซีย เม็กซิโก อินเดีย แอฟริกาใต้ ฟิลิปปินส์ และเวียดนาม

ในปี 2016 การส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ในกลุ่ม powertrain ที่มีสัดส่วนมากกว่า 40% มีการเติบโตสูงถึง 15% จากปีก่อนหน้า ส่วนในกลุ่ม electronics และ body มีการเติบโตอยู่ที่ 6% เท่ากัน

และกลุ่ม suspension มีการเติบโตอยู่ที่ 4% เมื่อพิจารณาการส่งออกชิ้นส่วนยานยนต์ตามประเภทสินค้าพบว่าชิ้นส่วนยานยนต์ในกลุ่ม powertrain อย่างชุดเกียร์มีการส่งออกใน ช่วงปี 2012-2016 เพิ่มขึ้นกว่า 60% โดยเฉลี่ยต่อปี

รองลงมาเป็นการส่งออกเครื่องยนต์ดีเซลที่มีการเติบโตกว่า 13% โดยเฉพาะในปี 2016 การส่งออกชุดเกียร์และเครื่องยนต์ดีเซลมีมูลค่าการส่งออกกว่า 2.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

นอกจากนี้ ชิ้นส่วนยานยนต์ในกลุ่ม electronics, suspension และ body ที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้น ได้แก่ ชุดจอ LCD, ชุดเบรก และชุดแต่งตัวถังรถยนต์ ที่เติบโตกว่า 15%, 12% และ 5% ตามลำดับ

ทั้งนี้ จะเห็นได้ว่าชิ้นส่วนยานยนต์ที่มีการส่งออกเพิ่มขึ้นทั้งหมดเป็นกลุ่มชิ้นส่วนที่มีมูลค่าเพิ่มสูง ซึ่งสะท้อนถึงความสามารถในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ของไทยที่มีบทบาทสำคัญต่ออุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์ในภูมิภาค

ด้วยขนาดของห่วงโซ่อุปทานที่มีทั้งผู้ผลิตรถยนต์และผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์มากกว่า 2,000 ราย ซึ่งการขยายตัวของอุตสาหกรรมมีส่วนช่วยผลักดันให้ไทยก้าวมาเป็นผู้ส่งออก ชิ้นส่วนยานยนต์อันดับที่ 15 ของโลก และเป็นผู้ส่งออก รายใหญ่ที่สุดของภูมิภาคอาเซียนมานานกว่า 10 ปี

ทั้งนี้ แนะผู้ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์ไทยพิจารณาการลงทุน ในประเทศที่การผลิตรถยนต์เติบโตแต่มีสัดส่วนผู้ผลิต ชิ้นส่วนฯ ต่อค่ายรถยนต์ต่ำ เพื่อคว้าโอกาสทางธุรกิจ รวมถึงพัฒนาสินค้าเพื่อให้สามารถแข่งขันในตลาดเดิมและเพิ่มโอกาสในการทำตลาดกับค่ายรถยนต์รายอื่นๆ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน