บริษัท ศูนย์วิจัยกสิกรไทย จำกัด

ยอดคงค้างหนี้ครัวเรือนในไตรมาส 2/2560 ขยับขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าประมาณ 106,788 ล้านบาท มาอยู่ที่ 11.603 ล้านล้านบาท จาก 11.496 ล้านล้านบาทในไตรมาส 1/2560

แม้สถานการณ์หนี้ครัวเรือนยังคงอยู่ในระดับสูงและเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง แต่ก็นับว่าเป็นการเพิ่มในอัตราที่ชะลอลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยยอดคงค้างหนี้สินของครัวเรือนเพิ่มขึ้น 3.1% YoY ในไตรมาส 2/2560 ชะลอลงจากที่เติบโต 3.2% YoY ในไตรมาส 1/2560 และน้อยกว่าการเติบโตของหนี้ครัวเรือนในปี 2559 ซึ่งมีค่าเฉลี่ยต่อไตรมาสประมาณ 4% YoY

หากพิจารณาลงไปในรายละเอียด จะพบว่าภาระหนี้เพื่อการอุปโภคบริโภค ทั้งในส่วนที่สะท้อนผ่านสินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล ขยายตัวในอัตราที่ชะลอลงมาที่ 6.1% YoY และ 4.1% YoY ในไตรมาส 2/2560 (จาก 8.9% YoY และ 4.4% YoY ในไตรมาส 1/2560 ตามลำดับ) เช่นเดียวกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยที่ยังชะลอลง ขณะที่สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ขยับขึ้นก็เป็นไปตามช่วงเวลาการฟื้นตัวของตลาดรถยนต์ในประเทศ

โดยสรุป มองว่าสถานการณ์หนี้ครัวเรือนที่ชะลอการ เติบโตลงอย่างต่อเนื่อง สะท้อนสัญญาณที่ระมัดระวังของทั้ง 2 ด้าน โดยในฝั่งของสถาบันการเงิน ทั้งธนาคารพาณิชย์และ สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ ก็ยังคงระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อรายย่อย ทั้งในส่วนของสินเชื่อบ้าน สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อส่วนบุคคล เพื่อดูแลประเด็นด้านคุณภาพของสินเชื่อ

ขณะที่ในฝั่งของครัวเรือน ก็น่าจะชะลอการก่อหนี้ เนื่องจากมีภาระหนี้อยู่ในระดับที่สูงอยู่ก่อนแล้ว

ทั้งนี้ หนี้ครัวเรือนที่เพิ่มขึ้นในอัตราที่ต่ำกว่าจีดีพี ทำให้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีของไทยลดต่ำลงต่อเนื่อง มาอยู่ที่ระดับ 78.4% ในไตรมาส 2/2560 (ต่ำสุดในรอบ 3 ปี) ขณะที่สัญญาณขยายตัวต่อเนื่องของเศรษฐกิจในระยะข้างหน้า ประเมินว่ามีความเป็นไปได้ที่หนี้ครัวเรือนของไทยในปี 2560 จะชะลอลงไปอยู่ที่ใกล้กรอบล่างของช่วงประมาณการที่ 78.0-79.0% ต่อจีดีพี

อย่างไรก็ดี คงต้องยอมรับว่า แม้สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพีในปี 2560 จะลดต่ำลงจากปี 2559 แต่ภาระหนี้สินของครัวเรือนที่ยังคงอยู่ในระดับสูงเมื่อเทียบกับรายได้ ก็น่าจะยังสะท้อนว่ากำลังซื้อและบรรยากาศของการใช้จ่ายภาคเอกชนอาจมีกรอบการฟื้นตัวที่ค่อนข้างจำกัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน