นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม กล่าวในโอกาสเป็นประธานงานเปิดส่วนขยายสายการประกอบรถยนต์ ปลั๊กอิน ไฮบริด ของบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป ประเทศไทย ที่โรงงานบีเอ็มดับเบิลยู กรุ๊ป แมนูแฟคเจอริ่ง นิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง ร่วมกับนายเจฟฟรีย์ กอดิอาโน กรรมการผู้จัดการและประธานบริหารบริษัทบีเอ็มดับเบิลยูฯ ว่าอยากให้นักลงทุนเชื่อมั่นประเทศไทย โดยเฉพาะอุตสาหกรรมยานยนต์ ซึ่งปัจจุบันรัฐบาลโดยกระทรวงอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างจัดทำมาตรการส่งเสริมการลงทุนรถยนต์ไฟฟ้า(อีวี) คาดจะแล้วเสร็จภายใน 2 เดือน

อุตตม สาวนายน

ในส่วนการขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ของบีเอ็มดับเบิลยู เป็นเครื่องยนต์ผสมผสานกับพลังงานไฟฟ้า ช่วยผลักดันนโยบายรถยนต์แห่งอนาคตของรัฐบาล สะท้อนถึงความร่วมมือระหว่างรัฐและเอกชน

ด้านนายเจฟฟรีย์ กล่าวว่า การขยายสายการประกอบรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ที่โรงงานระยองแห่งนี้จะช่วยเสริมรากฐานการลงทุนทำให้ไทยเป็นผู้นำด้านอุตสาหกรรมยานยนต์ในภูมิภาค สำหรับการประกอบปลั๊กอิน ไฮบริด บริษัทได้ประกอบรุ่น บีเอ็มดับเบิลยู 330e Luxury และบีเอ็มดับเบิลยู X5 xDrive40e M Sport โดยบริษัทจะเดินหน้าขยายสายการประกอบรถยนต์ทั้งรุ่นดังกล่าวต่อไป

เจฟฟรีย์ กอดิอาโน

สำหรับกำลังการผลิตรถยนต์ของบีเอ็มดับเบิลยูปี 2559 มีจำนวนทั้งสิ้น 20,000 คัน แบ่งเป็นรถยนต์ 16,000 คัน มอเตอร์ไซค์ 4,000 คัน โดยในยอดผลิตรถยนต์แบ่งเป็นขายประเทศ 50% ส่งออก 50% ซึ่งในจำนวนนี้เป็นยอดขายรถยนต์ปลั๊กอิน ไฮบริด ของบริษัท 5% ของยอดขายรวมบีเอ็มฯ คาดว่าปีนี้จากความนิยมของผู้บริโภคจะทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นคิดเป็นสัดส่วน 15% ส่วนจำนวนสถานีชาร์จไฟฟ้าปัจจุบันมี 3 แห่ง กระจายอยู่ในโรงแรม และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ตั้งเป้าหมายปีนี้จะเพิ่มอีก 20 แห่ง รวมเป็น 23 แห่ง

“บีเอ็มฯกำลังติดตามสิทธิประโยชน์การลงทุนจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ว่าจะเป็นรูปแบบใด รวมทั้งติดตามความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐาน มาตรฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องประกอบการวางแผนธุรกิจของบริษัทต่อไป”นายเจฟฟรีย์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน