จาก‘กระบี่’ถึง‘พังงา’ กับ‘แอคคอร์ด ไฮบริด’
จาก‘กระบี่’ถึง‘พังงา’ กับ‘แอคคอร์ด ไฮบริด’
จาก‘กระบี่’ถึง‘พังงา’ - แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่จริงๆ กับฮอนด้า แอคคอร์ด ใหม่ เจเนอเรชั่นที่ 10 ที่มีลูกค้าต่างจับจองกันเข้ามาไม่ขาดสาย หลังจากเปิดตัวและราคาอย่างเป็นทางการ เมื่อกลางเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
สามารถสร้างยอดขายกันไปแล้วมากกว่า 4,500 คัน กับเวลาไม่ถึง 3 เดือนดี ขณะที่เป้ายอดขายทั้งปีอยู่ที่ 9,000 คัน
ด้วยเพราะรูปลักษณ์ที่โดนใจนักเลงรถเมืองไทย รวมถึงเทคโนโลยีที่ใส่ไว้ให้โดยเฉพาะในรุ่นไฮบริด ที่ครบเครื่องสมกับการเป็นรถระดับหรู ทำให้มีสัดส่วนคิดเป็น 50% ของยอดขาย บอกเลยว่าไม่ธรรมดาเลยจริงๆ
เพื่อให้ได้รับทราบสมรรถนะการขับขี่ ทีมงานฮอนด้า นำโดย ‘ณัฏฐ์ ปฏิภานธาดา’ ผู้จัดการทั่วไปส่วนการตลาด และการวางแผนกลยุทธ์ จัดทริปทดสอบ ‘แอคคอร์ด ไฮบริด ใหม่’ ตัวท็อป HYBRID TECH เส้นทางจากจ.กระบี่ ไปยังอ.ทับปุด จ.พังงา ไป-กลับประมาณ 150 ก.ม.
ก่อนที่จะไปวิ่งบนถนนจริง ทีมงานฮอนด้า จัดให้ได้ทดลองระบบช่วยจอด พร้อมระบบช่วยเบรก กดปุ่มที่หน้าจอหรือที่ก้านปัดน้ำฝน สามารถเลือกได้ว่าจะจอดแบบถอยเข้าซอง หรือขนานฟุตบาธ เมื่อเลือกแล้ว ระบบจะตรวจหาช่องจอดที่เหมาะสม
จากนั้นผู้ขับขี่ทำตามคำสั่ง เดินหน้า ถอยหลัง ให้ตัวรถอยู่ในกรอบสีน้ำเงินที่แสดงอยู่หน้าจอ โดยไม่ต้องจับพวงมาลัย เพราะหากจับพวงมาลัยแล้ว ระบบจะยกเลิกทันที เนื่องจากเข้าใจว่า ผู้ขับขี่ต้องการควบคุมด้วยตัวเอง
เมื่อเข้าซองเรียบร้อยแต่ไม่เบรกเมื่อเข้าใกล้วัตถุ ระบบช่วยเบรกจะทำงานทันที ซึ่งเป็นการเบรกที่รุนแรงพอสมควร และระบบช่วยเบรกนี้จะทำงานเมื่อใช้เกียร์ถอยหลังที่ความเร็วไม่เกิน 10 ก.ม./ชม. ส่วนเกียร์เดินหน้าความเร็วไม่เกิน 7 ก.ม./ช.ม.
พร้อมออกเดินทางทดสอบสมรรถนะ แต่ละคันมีนักข่าว 2 คน ‘ข่าวสด ยานยนต์’ อาสาเป็นผู้ทดสอบขาไป ขึ้นไปนั่งตำแหน่งคนขับ รับรู้ได้ถึงทัศนวิสัยที่กว้างขึ้น ตามที่วิศวกรฮอนด้าแจ้งไว้ว่า เสาเอที่ลาดเอียงมาด้านหลัง และขนาดเล็กลง ช่วยเพิ่มมุมมองด้านหน้าได้ดียิ่งขึ้น
เบาะนั่งหนังสีน้ำตาลซึ่งมีเฉพาะตัวท็อป ให้ความรู้สึกเข้มขรึมหรูหรา ปรับไฟฟ้า 8 ทิศทาง บันทึกตำแหน่งได้ พร้อมเลื่อนอัตโนมัติเวลาขึ้น-ลงรถ เพิ่มความสะดวกสบายได้เป็นอย่างดี
พวงมาลัย 3 ก้านสไตล์สปอร์ต พร้อมมัลติฟังก์ชัน ควบคุมเครื่องเสียง และระบบต่างๆ มาตรวัดความเร็วและหน้าจอการใช้พลังงานในขณะนั้น แต่ไม่ได้ใส่วัดรอบเครื่องยนต์ เพราะ วิศวกรฮอนด้าบอกว่า อาจเป็นข้อมูลที่ เกินความจำเป็น สำหรับผู้ที่ใช้งานรถยนต์แบบไฮบริด
หน้าจอแสดงข้อมูล เช่นระยะทางที่วิ่งได้จากน้ำมันที่เหลืออยู่ ในบริเวณมาตรวัด ระบบแสดงข้อมูลที่กระจกหน้า (Head-Up Display)
เครื่องเสียงมาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว ติดตั้งระบบนำทางเนวิเกเตอร์ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และระบบสั่งงานด้วยเสียง Siri ช่องเชื่อมต่อ USB ที่บริเวณด้านหน้า 2 จุด
เส้นทางที่ทดสอบในครั้งนี้มีโค้งค่อนข้างเยอะ รวมถึงทางขึ้น-ลงลาดชัน ช่วงออกตัวเครื่องยนต์ 2.0 ลิตร ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว จี๊ดจ๊าดสะใจ
ออกนอกเมืองทำความเร็วได้ค่อนข้างมาก เพราะเป็นถนนแบบ 4 เลน และเพื่อนร่วมทางน้อย เข็มไมล์ค่อยๆ ขยับ 150-160-170 ก.ม./ช.ม. ได้แบบไหลๆ เพียงแต่เสียงมอเตอร์ที่แทรกเข้ามาในห้องโดยสารมีเพิ่มมากขึ้น
เลือกใช้โหมดการขับขี่ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะแบบ ECON Mode หรือ Sport Drive Mode ด้วยการกดปุ่มที่อยู่ต่อจากคันเกียร์ แต่จากที่ลองดูแล้วไม่ค่อยเห็นถึงความแตกต่างชัดเจนเท่าไหร่
ขับไปพักใหญ่รู้สึกว่าพวงมาลัยมีอาการหน่วงๆ เป็นเพราะขับเฉียดเข้าไปใกล้กับเส้นแบ่งเลนเดินรถ ระบบจะเตือนให้กลับมาอยู่ในช่องทางที่ถูกต้อง แต่หากเบี่ยงจนออกนอกเลน ระบบควบคุมจะทั้งส่งสัญญาณ สั่นเตือน หากยังไม่หยุดก็จะหน่วงพวงมาลัยให้กลับสู่ช่องทาง ยิ่งถ้าเป็น เส้นทึบระบบเบรกจะเข้ามาช่วยชะลอความเร็ว
ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ แบบแปรผัน ปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าตามที่ตั้งค่าความห่างไว้ กล้อง และเรดาห์ตรวจจับเจอรถคันหน้าจะรักษาระยะห่างด้วยการปรับเพิ่ม-ลด ความเร็ว รวมถึงเบรก และหยุดตามคันหน้าด้วย
ขับตามกันมาเพลินๆ เจอช่วงทำถนนปิดการจราจรไป 1 เลน ทำให้ต้องลดความเร็วกันจ้าละหวั่น ดีว่ามีแป้นเกียร์แพดเดิล ชิฟต์ ที่ปรับเพิ่ม-ลดเกียร์ได้ตามตำแหน่งบวก-ลบ
ความนุ่มนวลและมั่นใจเวลาเข้าโค้งทำได้ดี จากช่วงล่างด้านหน้า แม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมเหล็กกันโคลง ด้านหลัง มัลติลิงก์ พร้อมเหล็กกันโคลง
จากที่ได้ทดลองขับมาประมาณ 80 ก.ม. ถือได้ว่าเป็นรถเก๋งขนาดกลางที่มีลีลาจัดจ้าน ครบเครื่อง และรักษ์โลก เสียดายแต่ว่าระยะทางน้อยไปหน่อย
สัญญาว่าจะหาโอกาสมาทดสอบแบบยาวๆ ให้แฟนานุแฟนได้ข้อมูลแบบเต็มๆ อีกครา
ข้อมูลทางเทคนิค
แบบตัวถัง เก๋ง 4 ประตู
เครื่องยนต์ DOHC 4 สูบ 16 วาล์ว i-VTEC
ความจุ 1,993 ซีซี
กำลังสูงสุด 145 แรงม้า/6,200 รอบฯ
แรงบิดสูงสุด 175 นิวตัน-เมตร/3,500 รอบฯ
มอเตอร์ไฟฟ้า 184 แรงม้า/315 นิวตัน-เมตร
มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,862 x 4,894 x 1,450 ม.ม.
ราคา 1,800,000 บาท