ปัจจัยทีเด็ดซูซูกิ‘XL7’รถครอบครัว 7 ที่นั่ง เปิดตัวเดือนแรกยอดจองถล่มทลาย 1,300 คัน เกินเป้าหมายถึง300%

กลายเป็นรถที่สร้างปรากฎการณ์ยอดขายให้ค่ายซูซูกิอีกครั้งกับรถครอสโอเวอร์ 7 ที่นั่ง‘SUZUKI XL7’ ที่หลังเปิดตัวครบ 1 เดือน สามารถกวาดยอดจองได้เกิน 1,300 คัน จากเป้าหมายที่ซูซูกิวางไว้เดือนละ 300 คัน หรือทะยานกว่า 300%

ซูซูกิส่งมอบรถในล็อตแรกถึงมือลูกค้าเรียบร้อยแล้วจำนวน 451 คัน ซึ่งจากความนิยมที่ยังหลั่งไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่องเชื่อมั่นว่า SUZUKI XL7 จะสร้างยอดขายทะลุเป้าหมายที่วางไว้ในปีนี้ได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้อย่างแน่นอน

ความน่าสนใจของรถรุ่นนี้ที่กลายเป็นตัวขับเคลื่อนยอดขายไม่พ้นรูปลักษณ์ โดดเด่นทั้งในเรื่องของดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์สปอร์ตเข้ม ดุดัน ทันสมัย สามารถตอบโจทย์และสะท้อนภาพลักษณ์ของผู้ใช้งานได้อย่างลงตัว อีกส่วนที่ปฏิเสธไม่ได้คือราคา เพราะตั้งมาได้โดนใจสุดๆ มีเพียงรุ่นเดียวกับราคา 779,000 บาท เรียกว่าพอๆ กับซิตี้คาร์ แต่ขนไปได้ทั้งครอบครัว

“จุดเด่นสำคัญของ All NEW SUZUKI XL7 คือเป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ขนาด 7 ที่นั่ง ที่สามารถใช้งานได้จริงในทุกพื้นที่โดยสาร มิติของตัวรถถูกออกแบบให้มีความสูงขึ้นเพื่อให้สามารถเดินทางไปได้หลากหลายเส้นทางเหมาะกับสภาพถนนเมืองไทย ตอบโจทย์การขับขี่ได้ทั้งในเมืองและนอกเมืองเป็นอย่างดี ครบครันด้วยฟังก์ชั่นการใช้งานเหนือระดับ ในราคาที่ผู้บริโภคตัดสินใจเป็นเจ้าของได้ง่าย จึงมอบความคุ้มค่าและครบครันให้มากกว่าใครได้อย่างแท้จริง”

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม กรรมการบริหารด้านการขายและการตลาด บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) กล่าวถึงความร้อนแรงของ SUZUKI XL7

SUZUKI XL7 ใช้พื้นฐานเดียวกับเออร์ติก้า แต่ปรับปรุงช่วงล่างและเครื่องยนต์ใหม่ดูกระชับมากขึ้น กระจังหน้าดีไซน์ใหม่สีดำผสมโครเมียม มีเส้นโครเมียมพาดผ่านต่อเนื่องถึงไฟขับขี่เวลากลางวัน โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากดาบซามูไรญี่ปุ่น

ไฟหน้า LED ปรับองศาสูง-ต่ำได้ ไฟ Daytime Running Light พร้อมไฟตัดหมอกหน้า ไฟท้าย LED พร้อมกับไฟเบรกแนวตั้ง (Light guides)

ภายในเน้นโทนดำ ส่วนหลังคาเป็นสีเบจ ตกแต่งด้วยสีโครเมียมบริเวณคอนโซลหน้าและลาย Carbon Fiber พวงมาลัย 3 ก้านท้ายตัด (D-Shape) เพิ่มพื้นที่ระหว่างพวงมาลัยกับหน้าขา และสะดวกกับการเข้า-ออก พร้อมระบบมัลติฟังก์ชั่นควบคุมเครื่องเสียง

มาตรวัดพร้อมจอ LCD จอแสดงผลข้อมูลสำคัญของตัวรถ Driving G-Force แสดงผลแจ้งสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ เช่น อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง แจ้งการเปิดประตูรถ แบบบานไหนบานนั้น ไม่ต้องลุ้นว่าบานไหนเปิดค้างอยู่ และข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็น

ตรงกลางเป็นจอสัมผัสขนาดใหญ่ 10 นิ้ว พร้อมระบบปรับแต่งเสียงและประมวลผลในแบบดิจิตอล (Digital Sound Processor) ถือว่าเป็นสเป๊กที่สูงกว่าที่ประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งให้จอมาแค่ 8 นิ้ว

สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth เชื่อมต่อสมาร์ตโฟน Apple CarPlay, Android Auto มีช่องเชื่อมต่อ USB และ HDMI ติดตั้งลำโพง 6 ตัวเสียงเซอร์ราวด์ ระบบปรับอากาศแบบอัตโนมัติ พร้อมระบบปรับอากาศบนเพดานสำหรับผู้โดยสารตอนหลัง

ขุมพลังเครื่องยนต์เบนซิน K15B 4 สูบ 16 วาว์ล ความจุ 1,462 ซีซี บล็อกเดียวกับเออร์ติก้า แต่ปรับจูนกล่องควบคุมเพิ่มความกระชับของเครื่องยนต์มากขึ้น ให้กำลังสูงสุด 105 แรงม้า ที่ 6,000 รอบต่อนาที แรงบิด 138 นิวตัน-เมตร ที่ 4,400 รอบต่อนาที

เกียร์อัตโนมัติ 4 สปีด ปรับตั้งประสิทธิภาพเครื่องยนต์และอัตราทดเกียร์ให้เหมาะกับการขับขี่อย่างลงตัว ระบบช่วงล่างหน้าแม็กเฟอร์สันสตรัต พร้อมคอยล์สปริง ด้านหลังทอร์ชั่นบีม พร้อมคอยล์สปริง

ระบบความปลอดภัยทั้งระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล ระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP

ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control) กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ ระบบป้องกันการโจรกรรมด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer ฯลฯ

สันติ จิรพรพนิต….เรื่อง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน