ไม่เปียก-ไม่ร้อน อัพเดต 3 อันดับ ‘รถเก๋ง’ ป้ายแดง ราคาถูกที่สุดในตลาดเมืองไทยตอนนี้ เริ่มต้นไม่ถึง 3.2 แสนบาท

ท่ามกลางสภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน เนื่องมาจากปัจจัยเสี่ยงที่รายล้อมอยู่รอบด้าน ไม่ว่าจะสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ที่ยังมองไม่เห็นปลายอุโมงค์ว่าจะจบลงเมื่อไหร่ และอย่างไร หรือจะเป็นสงครามการค้า จีนกับสหรัฐอเมริกา ที่นับวันมีแต่จะโหมกระพือมากขึ้น

ทำให้ทุกคนต่างต้องหันมารัดเข็มขัดประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ก็น่ะ ของที่จำเป็นใช้อย่างไรก็ต้องซื้อหากัน เพียงแต่ขอให้คุ้มค่าคุ้มราคาหน่อยก็แล้วกัน

‘ข่าวสด ยานยนต์’ มีตัวเลือกรถเก๋งเล็กสไตล์แฮชท์แบค ที่เรียกว่า อีโค คาร์ ราคาน่าคบหา ชนิดที่กำเงินมา 500,000 บาท มีทอน มาเป็นทางเลือกให้กับแฟนานุแฟน ได้รับทราบเป็นข้อมูลก่อนตัดสินใจ

นำโด่งเข้าแป้นเบอร์ 1 รถยนต์นั่งมาตรฐานญี่ปุ่น ที่มีราคาถูกที่สุดในตลาด ไม่มีใครแซงหน้า‘ซูซูกิ เซเลริโอ’ ได้อย่างแน่นอน โดยเฉพาะหลังจากที่ได้ปรับราคาลงมาเริ่มต้นที่ 318,000 บาท ในรุ่นเกียร์ธรรมดา 398,000 บาท รุ่นเกียร์อัตโนมัติ และ 427,000 บาท สำหรับตัวท็อป ซึ่งส่งผลให้ยอดขายพุ่งกระฉูด เติบโตขึ้นจากก่อนหน้านี้หลายร้อยเปอร์เซ็นต์กันเลยทีเดียว

เก๋งเล็ก เครื่องยนต์ 3 สูบ 12 วาล์ว ขนาด 1.0 ลิตร ถามว่าเพียงพอกับการใช้งานไหม ถ้าขับไปไหนมาไหนแบบไม่ได้รีดกำลังมาก หรือเดินทางไกลเป็นระยะเวลานาน แบบไปทำงานเช้าไปเย็นกลับ หรือรับ-ส่งลูกไปโรงเรียน หรือไปจ่ายกับข้าวสวยๆ ถ้าเป็นอย่างนั้น สบายมาก

เดินทางได้สะดวกสบาย ไม่ต้องตากแดดตากฝน แถมประหยัดน้ำมันอยู่พอตัว แนะนำรุ่นเกียร์อัตโนมัติน่ะ เพราะรุ่นเกียร์ธรรมดา ตัดอ็อพชั่นไปหลายอย่าง ชนิดที่แทบจะย้อนยุคไป 30-40 ปีกันเลยทีเดียว แต่ถ้าใครชอบควบคุมรถด้วยตัวเอง และตั้งใจจะเอาไปแต่งสวย แต่งซิ่ง อันนี้ก็แล้วแต่ใจดีไซน์ภายนอกเรียบง่ายไม่มีอะไรหวือหวา สมกับเป็นรถสำหรับผู้เริ่มต้นใช้งาน ที่ไม่ได้มุ่งหวังนำไปโชว์หรืออวดใคร ส่วนภายในเรียบเสียยิ่งกว่าเรียบ เบาะนั่งลายแปลกตา แต่ถ้าจุดนี้ไม่ใช่สาระสำคัญ ทุกอย่างที่มีมาก็เพียงพอกับการใช้งาน

ต่อกันด้วย‘นิสสัน มาร์ช’ ฮ่า มาร์ช นี่น่ะ หลายคนคงร้องเสียงหลงเป็นแน่ เมื่อเห็นชื่อมาร์ช เพราะรุ่นนี้เปิดตัวกันมาตั้งแต่ปี 2553 โน่นกันเลยทีเดียว หรือกว่า 10 ปีมาแล้ว แล้วนิสสัน ยังผลิตอยู่อีกหรือ ผลิตอยู่ และผลิตครบทุกรุ่น ตั้งแต่เกียร์ธรรมดาตัวล่าง ไปจนถึงตัวท็อป ราคาตั้งแต่ 420,000 – 510,000 บาทด้วยรูปร่างที่กระทัดรัด ไม่ถึงกับสวยเฉี่ยว ออกแนวน่ารักน่าชัง ทำให้ดีไซน์ของนิสสัน มาร์ช อยู่ยงคงกระพัน ประกอบกับคำชมที่มีมากมายมาตลอดเวลา ถึงสมรรถนะของเครื่องยนต์ ที่ถึงจะเป็นแบบ 3 สูบ ขนาด 1.2 ลิตร แต่สามารถทำความเร็วปลายได้มากกว่า 160 กม.ต่อชม. ที่สำคัญช่วงล่างนิ่งกริบ จากประสบการณ์บนถนนมเตอร์เวย์

จึงไม่น่าแปลกใจว่าวันนี้ นิสสัน มาร์ช ยังคงมียอดขายอยู่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะรุ่นเกียร์ธรรมดา ที่นักเลงรถต่างจังหวัด เลือกซื้อไปใช้งานแบบบ้านๆ หรือเอาไปแต่งเพื่อโฉบรับสาวๆ ไปกินลม แต่แนะนำให้เป็นตัวท็อปเพราะตัวล่างสุดดูจะไม่ค่อยคุ้มสักเท่าไหร่ กระจกมือหมุน วิทยุต้องไปหาติดตั้งเอง ดีว่ายังมีแอร์ติดมาให้แล้ว เรียกว่าเหมาะไว้สำหรับนำไปแต่งอย่งแท้จริง ส่วนเกียร์อัตโนมัติ ก็สุดแต่ว่าความต้องการใช้งานของแต่ละคนก็แล้วกัน

ที่แพงขึ้นอีกนิด แต่ตัวเริ่มต้นยังไม่เกิน 500,000 บาท ค่ายทรี ไดมอนต์‘มิตซูบิชิ มิราจ’ รุ่นเกียร์ธรรมดา 474,000 บาท แต่ถ้าเป็นเกียร์อัตโนมัติ ทะลุไปที่ 509,000 บาท ต่อไปที่รองท็อป 574,000 บาท ส่วนตัวท็อปจัดหนักกันไปที่ 619,000 บาทหลังจากที่ปรับดีไซน์ด้านหน้าใหม่ สดใสไฉไลขึ้นเป็นกอง แต่ต้องแกล้งหรี่ตาลง หรือมองข้ามด้านท้ายของเจ้ามิราจไปเลย เพราะไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมแม้แต่น้อย ใครที่มีภาพจำรุ่นก่อนหน้านี้ จะรู้สึกคล้ายกับเป็นรถสองคันมาตัดแปะหน้าหลังประมาณนั้น

มิตซูบิชิ มิราจ เป็นเก๋งเล็กที่ดูเหมือนจะมีขนาดเล็กที่สุดก็ว่าได้ แต่อัดแน่นเทคโนโลยี และฟีเจอร์ไว้ค่อนข้างแน่น ซึ่งแน่นอนทำให้ราคาขายค่อนข้างสูง แต่ถ้ามีแล้วได้ใช้งานก็ถือว่าคุ้ม แต่ถ้าไม่เคยได้ใช้มันเลย อันนี้เป็นต้นทุนที่ไม่จำเป็นเลยเสียจริงจากที่เคยทดลองขับในรุ่นเกียร์อัตโนมัติตัวท็อป เครื่องยนต์ 3 สูบ 1.2 ลิตร ให้ความรู้สึกเบาะหวิวอยู่พอสมควร เวลาทำความเร็วปลายสูงๆ ซึ่งก็ไม่น่าแปลกใจ เพราะโดยกำเนิดของรถอีโค คาร์ คือไว้วิ่งใช้งานในเมืองเป็นหลัก แต่ก็สามารถออกต่างจังหวัดได้ เพียงแต่ไม่ควรทำความเร็วสูง

ทั้ง 3 รุ่นนี้ ถือเป็นรถเก๋งเล็ก ที่มีราคาถูกที่สุดในบ้านเราขณะนี้ ใครที่ลังเลว่ารุ่นไหนจะเหมาะกับตัวเอง ตรงนี้บอกเลยว่า ไม่มีใครให้ข้อมูล หรือตอบแทนได้อย่างแน่นอน นอกจากจะไปทดลองขับด้วยตัวเอง เพราะความต้องการของแต่ละคนนั้นไม่เท่ากันอย่างแน่นอน

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ…เรื่อง

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน