ปีหน้าเจอกัน ‘เกรท วอลล์’ ขึ้นสายพานผลิตรถขายในไทย-อาเซียน

เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ประกาศความพร้อมรับช่วงโรงงาน‘จีเอ็ม’ ระยอง ภายในปีนี้ ก่อนขึ้นสายพานการผลิตรถยนต์ปีหน้า ทั้งรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายในและ EV

หลังเข้ารับช่วงโรงงานการผลิตรถยนต์ของ‘จีเอ็ม’ บริษัท เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ยักษ์ใหญ่ยานยนต์จากประเทศจีน เจ้าถ่อรถเอสยูวีและกระบะ เตรียมความพร้อมรุกตลาดเมืองไทย พร้อมขึ้นสายการผลิตรถยนต์นายจาง เจียหมิง ประธาน เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ภูมิภาคอาเซียน กล่าวหลังหารือกับคเณศ วังส์ไพจิตร ผู้ช่วยเลขาธิการด้านการลงทุนอุตสาหกรรมเป้าหมาย สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ว่า อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ถือเป็น 1 ใน 12 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ที่ EEC ส่งเสริม สอดคล้องกับเป้าหมายที่คณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติตั้งไว้ ว่าประเทศไทยจะต้องมีสัดส่วนการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าร้อยละ 30 ภายในปี 2030

“ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการพูดคุยกับทาง GM เกี่ยวกับการดำเนินการต่างๆ ของโรงงานที่จังหวัดระยอง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในปีนี้ และจะเริ่มเดินสายการผลิตภายในต้นปีหน้า ตั้งเป้าจะให้ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตของ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ในภูมิภาคอาเซียน โดยโมเดลที่จะผลิตในประเทศไทยจะมีทั้งรถยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในและ EV รวมถึงการพัฒนา Autonomous car ในอนาคตอีกด้วย”นายจาง กล่าวและว่า บริษัทจะพยายามใช้ชิ้นส่วนในประเทศไทยให้มากที่สุด และพร้อมร่วมมือกับผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์ไฟฟ้าภายประเทศจัดหาชิ้นส่วนให้กับบริษัท สำหรับชิ้นส่วนที่เป็นเทคโนโลยีหลักที่ประเทศไทยยังไม่สามารถผลิตได้ บริษัทมีแผนที่จะแนะนำบริษัทลูกให้มาตั้งโรงงานผลิตในประเทศไทย อาทิ ชิ้นส่วนแบตเตอรี่ไฟฟ้าและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ไฟฟ้า เป็นต้น

นอกจากนี้บริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนบุคลากรโดยบริษัทแม่ในประเทศจีนจะมีการจัดตั้ง Training Center เพื่อพัฒนาบุคลากรของบริษัทสำหรับประเทศไทย เพื่อรองรับการพัฒนายานยนต์สมัยใหม่ เนื่องจากองค์ความรู้ของยานยนต์ปัจจุบันและยานยนต์ไฟฟ้าจะแตกต่างกันค่อนข้างมาก จึงมองว่าจำเป็นจะต้องมีการฝึกอบรมทักษะและองค์ความรู้ใหม่ๆ ให้กับพนักงานในอนาคต

ทาง EEC ได้ให้ข้อมูลว่า EEC มีการผลักดันการพัฒนาทักษะบุคลากร และสนับสนุนในเรื่องของ New Skill, Re-Skill, Up-Skill ผ่าน EEC Model ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาบุคลากรของ Great Wall Motors อยู่แล้วด้านนายคเณศ กล่าวว่าจากการหารือกับ เกรท วอลล์ มอเตอร์ส นอกจากบริษัทจะทำธุรกิจยานยนต์และส่วนประกอบแล้ว บริษัทยังมีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนา Smart City โดยต่อยอดจากความเชี่ยวชาญของบริษัท ในเรื่อง Smart Transportation ตัวอย่าง Smart City ที่บริษัทพัฒนาหลักในหลายเมือง เช่น เมืองฉงชิ่ง เจ้อเจียง เป็นต้น

สำหรับเกรท วอลล์ มอเตอร์ส (Great Wall Motors) หรือ GWM จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกงเมื่อปี 2546 และตลาดหลักทรัพย์เซี่ยงไฮ้เมื่อปี 2554 มีบริษัทย่อยที่ถือหุ้นมากกว่า 80 บริษัทและมีพนักงานกว่า 60,000 คน มีรถยนต์ในเครือหลายแบรนด์ อาทิ GWM, HAVAL, WEY และ ORA

ปัจจุบัน เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ทำยอดขายได้กว่าหนึ่งล้านคันต่อปี เป็นเวลาสี่ปีติดต่อกัน เน้นตลาดรถเอสยูวี ปิกอัพ และรถยนต์พลังงานทางเลือก นอกจากในประเทศจีน เกรท วอลล์ มอเตอร์ส ยังส่งมอบรถยนต์ไปให้กว่า 60 ประเทศและภูมิภาค และมีเครือข่ายในต่างประเทศกว่า 500 แห่งอีกด้วย