พบบททดสอบรถยนต์ครอสโอเวอร์‘นิสสัน คิกส์’ เทคโนโลยี‘อี-พาวเวอร์’ รถพลังไฟฟ้ารูปแบบใหม่-ไม่ต้องชาร์จ เทคโนโลยีแน่นคัน

เชื่อได้เลยว่า ถึงวันนี้นักเลงรถเมืองไทย หลายคนยังคงสงสัยกับเจ้าเทคโนโลยีจากค่ายนิสสัน ที่ชื่อ‘อี-พาวเวอร์’ ว่ามีความเหมือน หรือแตกต่าง กับรถยนต์ไฟฟ้า และไฮบริดอย่างไรบ้าง

เพราะหลังจากที่เปิดตัวครอสโอเวอร์ตัวล่าสุด นิสสัน คิกส์ มาได้พักใหญ่แล้วก็ตาม แต่ยังคงมีคำถามจากทั้งคนใกล้ตัว และแฟนานุแฟน‘ข่าวสด ยานยนต์’ เกี่ยวกับ อี-พาวเวอร์ กันมาไม่ขาดสาย
นั่นก็เป็นหนึ่งในโจทย์ที่ค่ายนิสสัน รับรู้มาตลอด ล่าสุดจึงจัดทริปทดสอบ‘นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์’ กันยาวๆ จากกรุงเทพฯ ไปยังจ.กาญจนบุรี เพื่อได้ประสบการณ์การขับบนถนนจริง ไม่ว่าจะในเมือง นอกเมือง ขึ้นลงทางลาดชัน แบบครบรส

ว่าแท้ที่จริงแล้ว เทคโนโลยีนี้ ที่มีทั้งเครื่องยนต์ขนาด 1.2 ลิตร ที่ทำหน้าที่เป็นโรงงานผลิตไฟฟ้า เพื่อส่งไปเก็บที่แบตเตอรี่ แล้วส่งต่อไปยังมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งทำหน้าที่ขับเคลื่อนตัวรถ นั้นมีดี และแตกต่างอย่างไรบ้าง

ฟังดูแล้วอาจจะซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่บ้าง แต่บอกเลยว่าสำหรับผู้ขับขี่แล้ว ไม่ได้ยุ่งยาก หรือต้องปรับการใช้ชีวิต เพราะยังคงเลี้ยวเข้าปั้ม เพื่อเติมน้ำมันเหมือนเดิม ที่เพิ่มเติมคือเป็นรถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า แต่ไม่ต้องวิ่งหาสถานีชาร์จไฟฟ้าให้วุ่นวาย และเสียเวลา เหมือนรถยนต์ไฟฟ้า 100% นั่นเอง

นัดแนะเจอะเจอกันแต่เช้า ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ สาทร ปลายถ.สาทร ก่อนขึ้นสะพานตากสิน มี‘ราเมช นาราสิมัน’ ประธาน พร้อมด้วย‘ชยภัค ลายสุวรรณ’ ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป ฝ่ายสื่อสารผลิตภัณฑ์ และล่าสุดได้รับการโปรโมทรับหน้าที่บริหารงานด้านสายงานสื่อสารองค์กรทั้งหมดของ บริษัท นิสสัน มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่จะถึงนี้

บอกกล่าวเรื่องราวตัวรถ แนวคิด ดีไซน์ เทคโนโลยี ที่อัดแน่นทั้งเพื่อความปลอดภัย และสะดวกสบาย พร้อมด้วยเส้นทาง ที่วิ่งกันยาวๆ ผ่านจ.นครปฐม จ.ราชบุรี สู่จุดหมายปลายทางจ.กาญจนบุรี ไป-กลับรวมแล้วกว่า 450 กม.

แบ่งเส้นทางการขับ กับน้องนักทดสอบรถยนต์สาวมือหนึ่ง แห่งสำนักประชาชาติธุรกิจ ‘น้องต้า’วุฒิณี ทับทอง ผู้ช่วยหัวหน้าข่าวโต๊ะรถยนต์ ว่าอันตัวพี่นั้น ขอทดสอบขาไป ส่วนขากลับให้น้องเค้าว่าการไป
นิสสัน คิกส์ อี-พาวเวอร์ ตัวท็อป รุ่น VL หลากสีจอดรออยู่แล้วที่ด้านหน้าโรงแรม ดีไซน์ภายนอก กระจังหน้าแบบ V-motion เอกลักษณ์เฉพาะของรถยนต์นิสสันรุ่นใหม่ ไฟหน้า และไฟท้ายทรงบูมเมอแรง ซุมล้อสีดำ สีทูโทน หลังคาดำ เพิ่มความดุดัน และเติมเต็มอารมณ์สปอร์ต

พร้อมออกเดินทาง ขึ้นนั่งตำแหน่งคนขับ ปุ่มกดสตาร์ทเครื่องยนต์ อยู่เหนือคันเกียร์อันจิ๋ว ข้างๆ ปุ่มปรับโหมดการขับขี่ ที่มีให้เลือกหลายแบบ ตำแหน่งที่นั่งผู้ขับขี่ ให้ทัศวิสัยที่ดี มองไปข้างหน้าได้กว้าง และไกล ซึ่งถือว่าเป็นบุคลิคที่ดีของรถสไตล์ ครอสโอเวอร์ เบาะนั่งขนาดใหญ่โอบกระชับ พวงมาลัย D-Shape ช่วยให้การเข้าออกเป็นไปอย่างสะดวก และเติมเต็มอารมณ์สปอร์ต

ตกแต่งภายในสีทูโทน ดำ-ส้ม คืออยากกระซิบดีไซน์เนอร์นิสสันสักนิด ว่าการออกแบบอย่างนี้ ช่วยให้ดูโดดเด่นก็จริง แต่ถ้าจะให้เหมาะ สีส้มที่ใส่มาน้อยกว่านี้สักนิด น่าจะดูดีขึ้นเยอะ

ดึงคันเกียร์ลงที่ตำแหน่ง D เบาๆ โดยอยู่ในโหมดนอร์มอล หันหัวรถขึ้นสะพานตากสิน ต่อเนื่องไปจนถึงเส้นพุทธมณฑล เพื่อนร่วมถนนหนาแน่นตลอดเส้น ไม่ว่าจะมอเตอร์ไซต์ เก๋งเล็ก เก๋งใหญ่ ไปจนถึงรถบรรทุก

กำลังที่เรียกมาได้จากมอเตอร์ไฟฟ้า 129 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตัน-เมตร พาตัวรถพุ่งทะยาน ไปตามแรงกดคันเร่ง ซึ่งเป็นบุลลิคของรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า ที่ไม่ต้องรอรอบเหมือนเครื่องยนต์สันดาปภายใน ช่วยให้การเร่งแซงในช่วงการจราจรหนาแน่น ทำได้อย่างสบายมือ ประกอบกับพวงมาลัยที่ค่อนข้างเบา การโยกซ้ายแซงขวา ทำได้อย่างกระชับฉับไว

เอื้อมมือไปปรับโหมดการขับขี่ให้เป็นแบบ Smart หรือ S mode ระบบจะเข้ามาจัดการเพิ่มสมรรถนะการขับขี่ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงเทคโนโลยีคันเร่งอัจฉริยะ วัน-เพดัล (One-Pedal) ที่เข้ามาทำงานในโหมดนี้ และ Eco mode

ทำให้การขับขี่ในเมืองเป็นเรื่องน่าอภิรมย์ยิ่งขึ้น กะระยะให้ดี แค่ถอนคันเร่งตัวรถก็ชะลอลง ไปจนถึงหยุดสนิท แบบไม่ต้องเหยียบแป้นเบรกเลยแม้แต่น้อย เมื่อจะเคลื่อนตัวไปต่อก็เหยียบที่แป้นคันเร่ง ถนอมทั้งผ้าเบรก และข้อเข่าผู้ขับขี่ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมี EV mode ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าที่เหลืออยู่ในแบตเตอรี่ โดยเครื่องยนต์ไม่ทำงาน จนกว่าไฟฟ้าที่แบตเตอรี่จะอยู่ในระดับต่ำถึงจุดที่กำหนด เพิ่มความประหยัดขึ้นไปอีก

ออกนอกเมืองพิสูจน์กำลังกันด้วยการหาความเร็วปลาย เข็มไมล์ไต่ขึ้นไปอยู่ที่ 90-100-110 กม.ต่อชม. ได้แบบสวยๆ แต่หลังจาก 120 กม.ต่อชม. ไปจนถึงที่ทำได้วันนั้น 150 กม.ต่อชม. มาแบบค่อยเป็นค่อยไป แถมด้วยเสียงของมอเตอร์ ที่แทรกเข้ามในห้องโดยสารค่อนข้างชัดเจน

ช่วงล่างบนย่านความเร็ว 90-110 กม. นิ่งเงียบเรียบกริบ ให้ความนุ่มนวลอยู่พอสมควร แม้จะไม่ถึงกับซีดาน แต่ก็ใช่ว่าจะกระเด้งกันจนหัวสั่นหัวคลอน ยามผ่านหลุมบ่อคอสะพาน

ก่อนถึงจุดหมายปลายทาง‘น้องต้า’อยากลองเส้นทางที่มีโค้งลัดเลาะไหล่เขา ข่าวสด ยานยนต์ เลยกระโดดไปนั่งเบาะหลัง เป็นการทดลองเป็นผู้โดยสารไปในตัว

พื้นที่วางขามีให้ขยับแข้งขยับขาได้อยู่พอสมควร ไม่ได้คุดคู้อุดอู้ แต่ตัวเบาะนั่งค่อนข้างสั้น รองรับต้นขาไม่ได้ทั้งหมด ทำให้คล้ายกับชันเข่านิดๆ ยามที่ต้องเดินทางเวลานานๆ อาจส่งผลต่อการเมื่อยล้าได้
จังหวะเข้าโค้งบนทางชันที่ต้องส่งกำลัง มีแรงเหวี่ยงให้ได้รู้สึกอยู่บ้าง แต่ไม่ได้ถึงกับเกิดอาการหวิว หรือน่ากลัว ส่วนโค้งปกติผ่านฉลุย

ถึงจุดหมายปลายทางระยะทางที่ขับมาประมาณ 300 กม. อัตราสิ้นเปลืองน้ำมันอยู่ที่ 14.5 กม.ต่อลิตร จะบอกว่าประหยัดก็ยังไม่เต็มปากมากนัก เพราะที่คิดไว้ควรจะได้มากกว่านี้อยู่พอสมควร เพราะเครื่องยนต์ทำงานราบเรียบฉีดน้ำมันในอัตราปกติตลอดเส้นทาง

แต่จะพูดว่าเป็นรถที่กินน้ำมันก็ไม่เชิง เพราะที่ขับทดสอบกันมานั้น เกินกว่าที่นักเลงรถทั่วไปใช้งาน แถมส่วนใหญ่เค้นกำลังวิ่งทางยาวๆ

ถึงขนาดที่ว่าหน้าจอแสดงสถานะการทำงานของระบบไฟฟ้า มีบางช่วงไฟฟ้าที่ปั่นมาจากเครื่องยนต์ วิ่งตรงไปที่มอเตอร์ทันที จากปกติต้องผ่านแบตเตอรี่ แล้วค่อยส่งต่อไปยังมอเตอร์ เพราะเป็นการใช้งานแบบเร่งด่วน

รุ่นที่‘ข่าวสด ยานยนต์’ ทดสอบเป็นรุ่น VL ตัวท็อป ราคาคันล่ะ 1.049 ล้านบาท ขณะที่ตัวเริ่มต้น รุ่น S ราคาอยู่ที่ 889,000 บาท อุ่นใจกับการรับประกันเบตเตอรี่ ลิเธียมไอออน สูงสุด 10 ปี หรือ 200,000 กม. ระบบไฟฟ้า และอุปกรณ์ฟ้า รับประกัน 5 ปี หรือ 100,000 กม.

แต่ถ้าอยากเท่แบบแตกต่าง ยังมีรุ่นพิเศษ ที่มาพร้อม ชุดแต่ง พรีเมียร์ อิดิชั่น สเกิร์ตหน้า หลัง และข้าง สีดำเงา สปอยเลอร์หลังสีดำเงา ล้ออัลลอยสีดำเงาขนาด 17 นิ้ว สัญลักษณ์ PREMIERE EDITION บริเวณเสากลางตัวรถ คิ้วบันไดสแตนเลสพร้อมสัญลักษณ์ PREMIERE EDITION สัญลักษณ์ PREMIERE EDITION บริเวณคอนโซลกลาง และแป้นวางเท้าทรงสปอร์ต ชุดแต่งพิเศษนี้มีให้สำหรับ สีขาว สตอร์ม ไวท์ และสีส้ม โมนาร์ช
ราคาเริ่มต้น 1.099 ล้านบาท แต่ต้องรีบหน่อย เพราะมีจำนวนจำกัด 500 คันเท่านั้น

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ…เรื่อง

ข้อมูลทางเทคนิค
แบบตัวถัง อเนกประสงค์ 5 ที่นั่ง (ครอสโอเวอร์)
เครื่องยนต์ 1.2 ลิตร แถวเรียง (DOHC) 3 สูบ 12 วาล์ว
มอเตอร์ไฟฟ้า EM57 AC3 Synchronous Motor
แบตเตอรี่ 1.57 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) 4 โมดูล
กำลังสูงสุด 129 แรงม้า ที่ 4,000-8,992 รอบต่อนาที
แรงบิดสูงสุด 260 นิวตัน-เมตร ที่ 500-3,000 รอบต่อนาที
ระบบส่งกำลัง อัตโนมัติ Single Speed Gear Reduction
ระบบกันสะเทือนหน้า อิสระ แม็คเฟอร์สัน สตรัท พร้อมเหล็กกันโคลง
ระบบกันสะเทือนหลัง ทอร์ชั่นบีม คอยล์สปริง พร้อมเหล็กกันโคลง
มิติ(กว้างxยาวxสูง) 1,760×4,290×1,615 มม.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน