ทดสอบ‘รถไฟฟ้า’แบบนันสต๊อปค่ายหรูยุโรป-แบรนด์ราคาน่าคบ – เป็นงานที่มีค่ายรถยนต์ไฟฟ้ามาให้เลือกทดสอบมากมาย หลากหลายรุ่นที่สุดในเมืองไทยกันไปแล้ว สำหรับงาน ‘ASEAN Sustainable Energy Week 2020’ หรือ ‘ASE 2020’ งานแสดงนวัตกรรมด้านพลังงานทดแทน และสิ่งแวดล้อมที่ครบครันที่สุดในภูมิภาคอาเซียน

เมื่อปีที่แล้วว่ามีรถยนต์ไฟฟ้าที่ทำตลาดอยู่มาให้ขับกันแน่นๆ แล้ว ปีนี้นอกจากแน่นแล้ว ยังจัดเต็มตัวท็อป ชนิดที่บางแบรนด์หลายคนเป็นเพียงแค่ความฝันที่จะได้สัมผัสสักครั้ง

สนามทดสอบขนาดย่อมบังคับโค้งซ้ายขวากึ่งสลาลอม และโค้งยาว ขณะที่ทางตรงเพื่อทำความเร็วความยาวประมาณ 100 เมตร สั้นจัง หลายคนคงนึกแบบนี้ แต่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100% แค่นี้ก็เพียงพอที่จะทำความเร็วเข้าใกล้ 100 ก.ม.ต่อช.ม.แล้ว

เริ่มกันที่ ‘ปอร์เช่ ไทคาน’ (Porsche Taycan) มีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 680 แรงม้า ในรุ่นเทอร์โบ ส่วน เทอร์โบ เอส ให้กำลังสูงสุด 716 แรงม้า จะแรงไปไหนกันล่ะนี่

แบตเตอรี่แบบ Performance Battery ชาร์จเต็มขับได้ยาวกว่า 400 ก.ม. ทำความเร็วได้สูงสุด 260 ก.ม.ต่อช.ม. ชาร์จแบตเตอรี่แบบกระแสตรง (DC) 5 นาที วิ่งได้สูงสุด 100 ก.ม. และหากชาร์จแบตเตอรี่ 5-80% ใช้เวลาเพียง 22.5 นาที ตอบโจทย์เรื่องเวลาในการชาร์จ ที่ถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้รถยนต์ไฟฟ้า ยังไม่ได้รับความนิยม ราคาเริ่มต้น 7.1 ล้านบาท ไปจนถึง 11.7 ล้านบาท

ภายในสมราคาค่าตัว ทุกอย่างเป็นระบบดิจิตอล สั่งการผ่านหน้าจอสัมผัส การออกแบบยังคงเอกลักษณ์สปอร์ตเรียบหรู

จังหวะออกตัวแรงตามบุคลิกของรถยนต์ไฟฟ้า ช่วงชู้ตทำความเร็วมาเร็วมาก ตีนต้นจี๊ดจ๊าดสะใจ จังหวะเข้าโค้ง ค่อนข้างคม บังคับตัวรถได้อย่างสบายมือ

ถึงทางตรงกดคันเร่งเน้นๆ ความเร็วทะลุ 100 ก.ม.ต่อช.ม. ในพริบตา จบการทดสอบด้วยการเบรกหนัก จนให้ระบบ ABS ทำงาน เบรกอารมณ์รถยนต์ไฟฟ้า มาเร็วเหมือนอย่างใจคิด

ต่อกันที่ค่าย ‘จากัวร์’ กับ ‘จากัวร์ ไอ-เพซ’ ที่มีค่าตัวเริ่มต้น 5.699 ล้านบาท แม้จะเห็นว่าเป็นรถสไตล์แฮตช์แบ๊ก 5 ประตู แต่ความแรงมีมาให้เหลือเฟือ ทำความเร็วสูงสุดตามสเป๊กได้ถึง 200 ก.ม.ต่อช.ม. ตีนต้นจัดจ้าน ซึ่งคิดไว้แต่แรกแล้วว่างานนี้แรงแน่

เพราะให้กำลังสูงสุด 400 แรงม้า แรงบิด 696 นิวตัน-เมตร จังหวะสลาลอม และเข้าโค้ง ต้องประคองพวงมาลัยเล็กน้อย ด้วยเพราะน้ำหนักที่ค่อนข้างมาก แต่ก็ยังเข้าได้อย่างใจ ไม่ได้บาน หรือย้วยให้ได้รู้สึก ทางตรง 100 เมตร เรียกความเร็วมาได้เกือบ 100 ก.ม.ต่อช.ม. กระทืบเบรกหยุดได้ตามที่คาดไว้ เลยไม่ไถล แต่ความรู้สึกทื่อไปนิด

‘บีเอ็มดับเบิลยู i3s’ รุ่นต่อยอดจาก i3 ที่เมื่อปีที่แล้ว ได้ทดลองขับแล้วดูเหมือนจะได้คะแนนท้ายๆ แต่กับเจ้า i3s บอกเลยว่าคนละเรื่อง กับราคาค่าตัว 3.73 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม และโปรแกรมบำรุงรักษา BSI Standard) คันเร่งเนียนกริบ ไม่ต้องระแวงว่าความแรง ความเร็วจะมามากเกินไป เพราะใกล้เคียงกับรถยนต์สันดาปที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน

ดีไซน์แตกต่างจากบีเอ็มดับเบิลยูอย่างชัดเจนเพื่อให้เป็นเอกลักษณ์รถยนต์ไฟฟ้า ฝากระโปรงด้านหน้าและด้านหลังสีดำ กันชนหน้ารูปตัว U เส้นหลังคา และเสาเอ สีดำเงา ขับเน้นอารมณ์สปอร์ต

จังหวะเข้าโค้งและสลาลอมทำได้ดีขึ้นไม่หนักและหน่วง เป็นผลมาจากการลดความสูงลง รวมถึงขยายฐานล้อให้กว้างขึ้น ขณะที่กำลังสูงสุด 184 แรงม้า แรงบิด 270 นิวตัน-เมตร

อารมณ์ขับขยับเข้าไปใกล้ความเป็นสปอร์ตมากขึ้น ไหลลื่นเป็นธรรมชาติ ทำให้ไม่เครียดแม้จะต้องทำความเร็ว ทางตรงกด คันเร่ง ความเร็วมาทันใจ เบรกหยุดได้ดั่งใจ ชาร์จเต็มขับได้ ระยะตามสเป๊ก 280 ก.ม.

อาวดี้ ‘อี-ทรอน’ (e-tron) SUV ไฟฟ้า 100% เป็นรถที่คันใหญ่ที่สุดในการทดสอบวันนี้ มองภายนอกบอกเลยว่า แทบไม่รู้ว่าเป็นรถยนต์ไฟฟ้า

ภายในหรูหราตามแบบฉบับรถพรีเมียมฝั่งยุโรป หัวเกียร์ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าขนาดใหญ่ แต่ใช้งานง่ายเพียงแค่ดันขึ้น หรือดึงลงเบาๆ ก็เข้าตำแหน่งเดินหน้าและถอยหลัง

ขุมกำลัง มอเตอร์ไฟฟ้าทั้ง 2 ตัว ให้กำลังสูงสุด 266 กิโลวัตต์ หรือ 360 แรงม้า และเพิ่มขึ้นเป็น 408 แรงม้า ในบูสต์โหมดแรงบิดสูงสุด 561 นิวตัน-เมตร และเพิ่มขึ้นเป็น 664 นิวตัน-เมตร ในบูสต์โหมด ชาร์จเต็มวิ่งได้ระยะทางตามสเป๊ก 400 ก.ม.นิดๆ ความเร็วสูงสุด 200 ก.ม.ต่อช.ม.

ช่วงล่างถุงลม กับบอดี้ขนาดใหญ่กับการขับในพื้นที่กระชับ คราแรกนึกประหวั่นอยู่ครั่นคร้ามว่าจะรอดไหม แต่เอาเข้าจริงดีกว่าที่คิด และดีกว่าหลายคันด้วยซ้ำ

กำลังมาตามแรงกดคันเร่ง พวงมาลัยคมกริ๊บ เข้าโค้ง และสลาลอม หน้าจิก ท้ายแน่น กำหนดรอยล้อได้อย่างใจ เรียกว่าหมุนทางไหนไปทางนั้น ไม่ต้องเป็นกังวลว่าจะดื้อหรือไม่ได้ดั่งใจ

ถึงทางตรงกดคันเร่งเต็มแรง ระยะทางแค่ 100 เมตร แต่ความเร็วทะลุ 100 ก.ม.ต่อช.ม.ไปนิดๆ เหยียบคันเร่งเต็มกำลัง ตัวรถหยุดกึกแทบไม่มีอาการไถล แต่ให้ความนุ่มนวลอยู่พอสมควร ราคาค่าตัว 5.099 ล้านบาท

นอกจากรถยนต์ไฟฟ้าแบรนด์หรูแล้ว การทดสอบครั้งนี้ยังมีรถยนต์ไฟฟ้าราคาน่าคบหามาให้ทดสอบด้วย

เริ่มที่ ‘ฟอมม์’ (Fomm) รุ่น ‘ONE’ ที่เริ่มมีเห็นบนถนนเมืองไทยเยอะขึ้น เพราะ วันนี้ได้ส่งมอบให้ลูกค้าไปแล้วกว่า 500 คัน เก๋งเล็กขนาดกะทัดรัด บุคลิกเฉพาะทั้งดีไซน์และลักษณะการขับขี่ ดึงคันเร่ง เพื่อเดินทาง ใช่ฟังไม่ผิด ดึงคันเร่งที่อยู่หลังแป้นพวงมาลัย ตำแหน่งเดียวกับแพดเดิลชิฟต์

ถ้าดึงข้างเดียว จะซ้ายหรือขวาตามถนัด เป็นการขับไปแบบเรื่อยๆ มาเรียงๆ แต่ถ้าดึงทั้งสองด้านพร้อมกัน เป็นการเพิ่มกำลังและความเร็วตัวรถให้แรงขึ้น

พวงมาลัยดีไซน์เท่ให้ความรู้สึกราวกับเป็นกัปตันเครื่องบิน รอบแรกยังไม่ค่อยคุ้น กับการเพิ่มความเร็วที่มือ ทำให้เก้ๆ กังๆ ยามเข้าโค้ง หรือสลาลอม ไหนจะต้องพะวงดึงคันเร่ง ไหนจะต้องควบคุมทิศทาง ที่สำคัญเท้าขวาเกร็งอยู่ตลอดจนแทบเป็นตะคริว

แต่พอรอบสอง รอบสาม กลายเป็นสนุก ทุกอย่างเริ่มเป็นธรรมชาติมากขึ้น อารมณ์คล้ายกับควบคุมจอยสติ๊ก เล่นเกมต่างๆ ที่คุ้นเคยมาแต่วัยเยาว์

มาถึงทางตรงดึงคันเร่งทั้งสองข้างเต็มเหนี่ยว ความเร็วขึ้นไปถึง 60 ก.ม.ต่อช.ม. น้อยไปหน่อย แต่ก็เพียงพอแล้วกับรูปร่างเท่านี้ จบที่เบรกแรงแต่ผลที่ได้คือเบรกได้นุ่มนวลชวนฝัน เสียจริงๆ

ค่าตัวรถยนต์ไฟฟ้า 100% ขนาดกะทัดรัดคันนี้อยู่ที่ 599,000 บาท กับดีไซน์ภายในอัพเกรดให้พรีเมียมมากขึ้น เบาะนั่งหนัง พวงมาลัยหนัง รับประกันแบตเตอรี่ 7 ปี หรือ 150,000 ก.ม. ชาร์จเต็มวิ่งได้ 166 ก.ม. ไม่แปลกใจแล้วว่าทำไมถึงเป็นขวัญใจ นักเลงรถเล็กหัวเมืองใหญ่หัวใจสีเขียวไปแบบเต็มๆ

รุ่นตัวถังเล็กลงอีกนิดค่าย ‘ทากาโน่’ รถกระบะไฟฟ้า 100% ขนาดเล็กมาก ที่ออกแบบในประเทศญี่ปุ่น แต่มาประกอบในบ้านเรา มีให้เลือกเพียงรุ่นเดียว ‘TTE 500’ รับน้ำหนักบรรทุก 300 ก.ก. (ไม่รวมคนขับและผู้โดยสาร)

ชาร์จเต็มใช้เวลา 4-5 ช.ม. โดยสามารถเสียบปลั๊กบ้านได้เลยทันที ไม่ต้องติดตั้งวอลล์ชาร์จให้วุ่นวาย วิ่งได้ระยะทาง 100-120 ก.ม. ความเร็วสูงสุด 60 ก.ม.ต่อช.ม. ราคา 458,000 บาท

มาดูกันว่าสมรรถนะคุ้มค่าคุ้มราคาหรือไม่ ห้องโดยสารขนาดเล็ก เล็กจริงๆ มี 2 ที่นั่ง เบาะนั่งปรับไม่ได้ แถมเอนไปข้างหน้า การเข้าโค้ง หรือสลาลอม ยังต้องประคองพวงมาลัยให้กระชับ เพราะไม่ค่อยแม่นยำเท่าไหร่

อัตราเร่งช่วง 100 เมตร ทำไปได้ถึงร่วม 80 ก.ม.ต่อช.ม. เบรกเต็มกำลังมีอาการท้ายปัดเล็กน้อย บอกตามตรงเลยว่าถ้าคิดว่าจะซื้อไปใช้งานบรรทุกสินค้าอย่างเดียว ไม่คิดเยอะ ได้ทั้งความประหยัด และรักษ์โลกก็พอไหว แบบไม่ต้องสนใจ สมรรถนะใดๆ

รับรู้ข้อมูลเป็นเบื้องต้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า 100% ที่ทำตลาดบ้านเราอยู่ในขณะนี้ ส่วนนักเลงรถหัวใจสีเขียว ที่ใส่ใจรักษ์โลกจริงๆ ติดต่อเข้าไปทดลองขับแต่ละรุ่น แต่ละค่าย ว่าจะถูกใจหรือไม่

กิตติพงศ์ ศรีเจริญ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน