‘เอ็มจี’เจาะเซ็กเมนต์ใหม่ด้วย‘MG EP’ รถสเตชั่น แวกอน พลังงานไฟฟ้า 100% เน้นความสะดวกสบายและประหยัดสุดๆ วอร์รันตีค่าดูแลรักษา 5 ปี ไม่เกิน 8,000 บาท

‘เอ็มจี’ ปลุกตลาดรถสไตล์‘สเตชั่น แวกอน’ แบบเปรี้ยงปร้างด้วยการเปิดตัว‘MG EP’ พร้อมระบบขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% โดยเป็นรถนำเข้าจากจีนโดยล็อตแรกเจข้ามาหลักร้อนคัน ส่วนปีหน้าตั้งเป้าขยับขึ้นเป็นหลักพันคัน

ออกแบบภายใต้แนวคิด BRIT DYNAMIC ที่ให้ทั้งสมรรถนะ (PERFORMANCE) การควบคุม (HANDLING) การออกแบบ (DESIGN) และความปลอดภัย (SAFETY) พร้อมสำหรับทุกรูปแบบการใช้งาน ขับเคลื่อนได้ไกล ประหยัดได้มากกว่า

ดีไซน์ภายนอกที่ทันสมัยด้วยกระจังหน้าแบบ Suspended Wing Grille ตกแต่งด้วยโครเมียมและ Piano Black ไฟหน้าโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างในเวลากลางวัน LED Daytime Running Light พร้อมระบบควบคุมการเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติ ไฟท้าย LED แบบ Electric Pulse Design และไฟเบรก ดวงที่ 3 แบบ LED ล้ออัลลอยด์ดีไซน์แบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้ว

ตกแต่งภายในด้วยวัสดุผิวสัมผัสนุ่ม (Soft Touch) ดีไซน์เส้นสายแบบ CARBOXNYXE เบาะคู่หน้าออกแบบตามหลักสรีรศาสตร์ (Anti-Curved Surface Design) ซึ่งโอบรับกับเส้นสายสรีระได้เป็นอย่างดี นั่งสบายตลอดเส้นทาง

หน้าจอ Touchscreen ขนาด 8 นิ้ว รองรับการเชื่อมต่อกับ Apple CarPlay และหน้าจอแสดงผลอัจฉริยะแบบดิจิตอล (Digital Multi-Function Display) ขนาด 7 นิ้ว ที่แสดงผลได้อย่างสวยงามและชัดเจน พร้อมระบบปรับอากาศแบบดิจิตอล กระจกมองหลังตัดแสง กระจกไฟฟ้าแบบ One Touch Up-Down ด้านคนขับ

พื้นที่ห้องโดยสารและพื้นที่เก็บสัมภาระที่กว้างขวาง เพื่อสามารถรองรับการใช้งานในจุดประสงค์ที่หลากหลาย ตอบโจทย์การใช้งานทุกรูปแบบ โดยเบาะที่นั่งผู้โดยสารด้านหลังสามารถปรับพับได้แบบ 60:40 ทำให้มีพื้นที่ความจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,456 ลิตร

ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ใช้แบตเตอรี่ Lithium-Ion มีความจุรวม 50.3 kWh ขับเคลื่อนระยะทางไกลถึง 380 กิโลเมตร ต่อการชาร์จเต็ม 1 ครั้ง (ทดสอบตามมาตรฐานความประหยัดพลังงาน New European Driving Cycle – NEDC)

นอกจากนี้ แบตเตอรี่ของ NEW MG EP ยังได้รับการทดสอบตามมาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น ระดับ IP67 พร้อมด้วยระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling System ที่จะช่วยให้แบตเตอรี่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย ภายใต้สภาวะต่างๆ

มอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูงแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor ให้พละกำลังสูงสุด 163 แรงม้า แรงบิด 260 นิวตัน-เมตร ทำงานร่วมกับเกียร์ไฟฟ้า อัตราเร่ง 0-100 ก.ม./ชั่วโมง ภายใน 8.8 วินาที ทำความเร็วสูงสุด 185 ก.ม./ชั่วโมง มาพร้อมรูปแบบการขับขี่ทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ โหมด Normal โหมด Eco และ โหมด Sport

สามารถชาร์จไฟฟ้าได้ 2 แบบ คือ Quick Charge แบบ DC ผ่านหัวชาร์จประเภท CCS Combo 2 โดยชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0 – 80% ในระยะเวลาประมาณ 40 นาที และ Normal Charge แบบ AC ชาร์จพลังงานตั้งแต่ 0 – 100% ผ่าน MG Home Charger ที่เป็นหัวชาร์จ TYPE II ใช้เวลาประมาณ 7 ชั่วโมง 15 นาที

นอกจากนี้ยังสามารถชาร์จพลังงานในระหว่างการขับขี่กลับเข้าแบตเตอรี่ (Regenerative) ด้วย KERS Mode (Kinetic Energy Recovery System) โดยเลือกระดับการชาร์จพลังงานกลับได้ถึง 3 ระดับ

ระบบกันสะเทือนของช่วงล่างแบบ Euro Tuning Suspension เสริมด้วยระบบช่วงล่างหน้าแบบ MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง และช่วงล่างหลังแบบทอร์ชั่นบีม ทำให้มั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อขับขี่บนทุกสภาพถนน

ติดตั้งเทคโนโลยีระบบความปลอดภัยที่ครบครันตามมาตรฐาน โดยแต่ละระบบจะมีการทำงานผสานกัน ทำให้เกิดความปลอดภัยและมีความมั่นใจในการขับขี่มากยิ่งขึ้น อาทิ

ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-Lock Braking System)

ระบบกระจายแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBD (Electronic Brake Force Distribution)

ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)

ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake)

ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่ต้องเหยียบเบรกค้าง AVH (Auto Vehicle Hold)

ระบบควบคุมการทรงตัว SCS (Stability Control System)

ระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้ง CBC (Curve Brake Control)

ระบบตรวจสอบความผิดปกติของลมยาง TPMS (Tire Pressure Monitor System) ฯลฯ

นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control) ไฟส่องนำทางหลังจากดับเครื่องยนต์ (Follow Me Home Light) จุดยึดเบาะ ISOFIX เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับ ถุงลมนิรภัยคู่หน้า กล้องมองหลังพร้อมสัญญาณเตือนระยะถอยหลัง และระบบกุญแจนิรภัยแบบ Immobilizer

NEW MG EP ดูแลรักษาที่ง่ายและมีค่าใช้จ่ายต่ำ การชาร์จผ่าน MG Home Charger ที่บ้าน จาก 0%-100% มีค่าใช้จ่ายซึ่งเป็นค่าไฟฟ้าประมาณ 200 บาทต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง(อัตราค่าไฟฟ้าเฉลี่ยทั่วประเทศที่ 3.96 บาทต่อหน่วย ไม่รวมค่า FT และภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ เดือน ม.ย.2563)

รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาตามระยะทางตลอดระยะเวลา 5 ปีหรือ 100,000 กิโลเมตร อย่างใดอย่างหนึ่งถึงก่อน มีค่าใช้จ่ายรวมไม่เกิน 8,000 บาท

การบำรุงรักษาแบตเตอรี่ในระยะยาว MG นำเทคโนโลยีการเปลี่ยนแบตเตอรี่แบบ Module มาใช้ ในกรณีหากจำเป็นต้องมีการบำรุงรักษานั้น สามารถแยกเปลี่ยนเฉพาะ Module นั้นๆ ได้โดยไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนทั้งชุด ช่วยลดค่าใช้จ่ายระยะยาวได้

ส่วนสนนราคาต้องรอจับตาเพราะจะประกาศในงาน‘มอเตอร์ เอ็กซ์โป 2020’ ระหว่างวันที่ 2 – 13 ธ.ค.นี้ ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี

แต่ถ้าดูจากรถรุ่นผ่านๆ มา ที่เอ็มจีตั้งราคาไม่เว่อร์วังนัก ‘MG EP’ประมาณราคาน่าจะอยู่ระดับ 1 ล้าน บวก-ลบเล็กน้อย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน