หัวเว่ย พี 40 โปร
สมาร์ตโฟนกล้องเลิศสุด
หัวเว่ย พี 40 โปร-หลังจากส่งหัวเว่ย พี 30 โปร ผงาดเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นหนึ่งที่ได้รับการกล่าวขวัญและชื่นชมมากที่สุด โดยเฉพาะประสิทธิภาพของกล้องถ่ายภาพที่ยอดเยี่ยม หัวเว่ยยังคงต่อยอดความสำเร็จดังกล่าวด้วย พี 40 โปร ในปีนี้
แม้จะไม่มีแอพพลิเคชั่นจากกูเกิ้ล ผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์จากสหรัฐอเมริกา แต่นั่นไม่ได้ทำให้หัวเว่ย ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชื่อก้องโลกจากประเทศจีนท้อถอย!
เว็บไซต์แอนดรอยด์อูธอริตี รายงานสรุปประสบการณ์การใช้งาน ซึ่งข่าวสดไอทีขอนำมาถ่ายทอดให้รับทราบกัน
หัวเว่ย พี 40 โปร เป็นสมาร์ตโฟนชั้นเรือธงใหม่จากค่ายหัวเว่ย มีขนาดกว้าง 72.6 ยาว 158.2 และหนา 9 มิลลิเมตร น้ำหนัก 209 กรัม พร้อมมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นแบบ IP 68
ความประทับใจแรกสุดของสมาร์ตโฟนรุ่นนี้อยู่ที่รูปลักษณ์การออกแบบภายนอกที่วิจิตรและน่าดึงดูด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้กระจกมีความโค้งเว้าเข้าหาขอบอะลูมิเนียมมันวาวทั้ง 4 ด้าน ด้วยแรงบันดาลใจจากองศาของหยดน้ำที่กำลังจะไหลหล่นลงจากพื้นผิว ส่งผลให้ขอบของเครื่องมีขนาดเล็กลง แต่ไม่ถึงกับการที่จะทำให้ถือได้ยาก แต่ตรงกันข้าม เพราะว่า สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังสามารถถือไว้ได้เหนียวแน่นมากกว่าที่ผู้ทดสอบคาดไว้
การออกแบบกระจกโค้งเว้าทั้ง 4 ด้าน ยังทำให้ประสบการณ์การใช้งานบนหน้าจอเปลี่ยนไปด้วย โดยเฉพาะความรู้สึกเมื่อใช้นิ้วเขี่ยจากขอบเข้ามานั้นลื่นไหล และไม่สะดุดเหมือนกับ สมาร์ตโฟนทั่วไปที่มักสะดุดขอบของเครื่อง ประกอบการกระจายน้ำหนักที่ยอดเยี่ยมของหัวเว่ย
ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่ถือได้สบายและนุ่มละมุนมือมากที่สุดของชั่วโมงนี้
พี 40 โปร มีปุ่มปรับระดับเสียงและปุ่มเปิด-ปิดอยู่ที่ขอบด้านขวาของเครื่อง (หันจอเข้าหาตัวผู้ใช้) ให้ความรู้สึกเฉียบคมและว่องไวในการตอบสนอง ขอบบนเป็นที่อยู่ของไมโครโฟนและ IR-blaster ส่วนขอบล่างมีถาดใส่ซิมการ์ด ไมโครโฟน USB-C และช่องลำโพง
อย่างไรก็ดี การออกแบบทั้งหมดของทางหัวเว่ยที่เน้นความโค้งมนตามขอบ หน้าจอเจาะรูสำหรับกล้องเซลฟี่ และโมดูลกล้องหลังที่ยื่นออกมา อาจไม่ถูกจริตของผู้ใช้บางกลุ่ม
หน้าจอของพี 40 โปร เป็นเทคโนโลยี AMOLED ขนาด 6.58 นิ้ว ความละเอียดสูงสุด 1,200×2,640 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 441 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) อัตราส่วนภาพ 19.8 : 9 สนับสนุน HDR10 และมีจุดเด่นที่ความถี่ 90 เฮิร์ตซ์ (Hz)
การทดสอบพบว่า จอภาพดังกล่าวให้ภาพที่คมชัดและดูดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ตโฟนหัวเว่ย ไม่ว่าจะเป็นองศาการมองที่กว้าง และความเพี้ยนของสีที่แทบไม่มีให้เห็น ขณะที่ความสว่างที่ 440 นิต แม้จะไม่สว่างที่สุดในบรรดาเรือธงทั้งหลาย แต่ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานกลางแจ้ง มองเห็นได้ชัดเจน
ที่น่าเสียดายในส่วนนี้ เป็นเงาที่เกิดจากการออกแบบขอบโค้งบริเวณจอทอดตัวลงมาบนจอภาพเล็กน้อย (เห็นชัดโดยเฉพาะขอบข้าง) และแม้ทางหัวเว่ยจะเพิ่มความถี่จอมาเป็น 90Hz แต่การที่ไม่มีความถี่ 120Hz และความละเอียดแบบ QHD+ นั้นเป็นสิ่งที่น่าผิดหวังในมือถือเรือธง
ความถี่ของภาพที่เพิ่มขึ้นนั้นจะส่งผลให้ภาพที่ปรากฏบนจอรู้สึกว่ามีความลื่นละมุนต่อสายตามากขึ้น และกำลังเป็น เทรนด์ที่มาแรงใน สมาร์ตโฟนปีนี้
หัวเว่ย พี 40 โปร ใช้ขุมพลังจากชิพประมวลผล (SoC) HiSilicon Kirin 990 5G จากสถาปัตยกรรมการผลิตขนาด 7 นาโนเมตร (nm) ภายในประกอบด้วยหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) แบบ 8 หัว (Octa-core) มีความเร็วสัญญาณนาฬิกาแบ่งเป็น 3 คลัสเตอร์ ได้แก่ 2.86 กิกะเฮิร์ตซ์ (GHz) จำนวน 2 คอร์ 2.36 GHz จำนวน 2 คอร์ และ 1.95 GHz จำนวน 4 คอร์ มีหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) รุ่น Mali-G76 หน่วยความจำแรม (RAM) 8 กิกะไบต์ (GB) พื้นที่เก็บข้อมูลภายในบนอินเตอร์เฟซ UFS 3.0 ขนาด 128/256/512 GB ไม่สนับสนุน micro-SD card
พี 40 โปร สนับสนุนเทคโนโลยีการสื่อสารยุคที่ห้า (5G) ขณะที่เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือในจอภาพนั้นมีขนาดใหญ่ขึ้นถึง ร้อยละ 30 และทางหัวเว่ยระบุว่า สามารถทำงานได้ไวกว่าเดิมร้อยละ 30 อีกด้วย
จากการทดสอบพบว่า ทำงานได้แม่นยำและฉับไวสมกับเป็น หัวเว่ย เพราะทางผู้ทดสอบชื่นชมมาตลอดเกี่ยวกับเซ็นเซอร์ลายนิ้วมือของหัวเว่ย ว่าเร็วที่สุดในบรรดาคู่แข่ง ทั้งการเพิ่มพื้นที่การแตะนิ้วถือเป็นความสำเร็จทางวิศวกรรมที่น่าทึ่ง เพราะการเพิ่มขนาดเซ็นเซอร์แสงใต้จอภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นเดียวกันกับแบตเตอรี่ขนาด 4,200 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) จากการทดสอบพบว่าใช้งานได้ยาวนานถึง 2 วัน
สมาร์ตโฟนรุ่นนี้ยังรองรับเทคโนโลยี 40W SuperCharge ที่ทางหัวเว่ยแถมมาให้ในกล่อง สามารถชาร์จตั้งแต่ 0 ถึง 100 เปอร์เซ็นต์เต็มได้ภายใน 74 นาที และ 97 เปอร์เซ็นต์ ภายใน 1 ชั่วโมง เนื่องจากหัวเว่ยต้องการยืดอายุการใช้งานของแบตฯ ให้ยาวนานจึงมีระบบชะลอการชาร์จไม่ให้เต็มทันทีเมื่อใกล้ 100 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้ ยังรองรับระบบชาร์จไร้สายแบบ 27W การชาร์จไร้สายให้อุปกรณ์ไร้สายอื่นๆ ขนาดเท่ากัน Wi-Fi 802.11 a/b/g/n/ac/ax แบบ dual-band คลื่นบลูทูธ 5.1 แต่ไม่มีเสาอากาศ FM ในตัว
มาถึงไฮไลต์ของหัวเว่ย พี 40 โปร เป็นกล้องถ่ายภาพ หัวใจของ พี-ซีรีส์ (P = Photo) การปรับปรุงใหม่นั้นส่งผลพี 40 โปร กลายเป็นสมาร์ตโฟนถ่ายภาพที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่เคยทดสอบมา
ไม่ว่าจะเป็นเลนส์วาย อัลตราวาย เทเลโฟโต้ และไทม์-ออฟ-ไฟลต์ (ToF) รวมไปถึงกล้องเซลฟี่ความละเอียดสูงถึง 32 ล้านพิกเซล (MP) พร้อมระบบออโต้โฟกัส (AF) ด้วยแสงเลเซอร์ ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวมากในตลาดปีนี้
ความพิเศษของกล้องถ่ายภาพของพี 40 โปร เริ่มที่เลนส์หลัก เป็นเลนส์วายให้ภาพมุมกว้าง ความละเอียด 50MP แบบ RYYB มีขนาดเซ็นเซอร์ใหญ่ยักษ์ถึง 1/1.28 นิ้ว ถือเป็นเซ็นเซอร์ภาพที่ใหญ่ที่สุดในสมาร์ตโฟนชั่วโมงนี้ (ใหญ่ยิ่งกว่า ซัมซุง กาแล็กซี เอส 20 อัลตรา 5 จี ที่มีขนาด 1/1.33 นิ้ว) ส่งผลให้ภาพที่ออกมานั้นงดงามอย่างน่าทึ่ง ไม่ว่าจะเป็นสีที่ทั้งสว่างและเอิบอิ่มโดยที่ไม่ทิ่มหูทิ่มตาเกินความเป็นจริง ผสมผสานกับไดนามิกเรนจ์ที่ยอดเยี่ยมจาก HDR10 ที่ยังคงไว้ซึ่งรายละเอียดคมชัดของภาพ และการแยกวัตถุในภาพที่แนบเนียนสมจริงกว่าสมาร์ตโฟนรุ่นไหนๆ
ไรอัน โทมัส ชอว์ ผู้ทดสอบ ระบุว่า ขนาดเซ็นเซอร์ที่ใหญ่มากขึ้นนั้นส่งผลให้ระบบ AF ต้องทำงานหนักมากขึ้น โดยการทดสอบพบปัญหาคล้ายกันกับเรือธงของซัมซุง คือ ระบบ AF มีอาการรวนให้เห็นบ้างเมื่อถ่ายภาพที่ระยะใกล้ แต่ของทางหัวเว่ยนั้นรวนน้อยกว่าซัมซุง
อย่างไรก็ตาม ความสามารถด้านอื่นๆ ของกล้องถ่ายภาพของพี 40 โปรนั้นยังคงน่าประทับใจ เช่น การซูมถ่ายภาพ ผ่านเลนส์เทเลโฟโต้ความละเอียด 12MP แบบ RYYB ทำให้ภาพที่ออกมานั้นมีรายละเอียดมากขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะหากแสงสว่างเพียงพอ ภาพที่ได้จากการซูมจะชัดมากอย่างน่าตื่นตะลึง ขณะที่การถ่ายภาพแบบเลนส์ละลายนั้นทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม แยกวัตถุที่โฟกัสกับฉากหลังออกจากกันได้อย่างแม่นยำและแนบเนียน
การถ่ายภาพในเวลากลางคืน ซึ่งเป็นจุดแข็งของพี-ซีรีส์ มาคราวนี้ไม่ผิดหวังอีกเช่นกัน โดยพี 40 โปร ยังคงสามารถเก็บรายละเอียดของภาพได้มาก เนื่องจากเซ็นเซอร์แบบ RYYB และสามารถแยกส่วนภาพที่มีแสงสว่างไม่เท่ากันออกจากกันได้อย่างถูกต้อง
ส่วนเลนส์อัลตราวายความละเอียด 40 MP นั้น เรียกว่าถอดด้ามมาจากรุ่นเมท 30 โปร ซึ่งได้รับความชื่นชมมาก แต่คราวนี้ทาง หัวเว่ยเพิ่มขนาดเซ็นเซอร์ให้ใหญ่ และมีเรโซลูชั่นที่มากขึ้นเป็น 4 เท่า ผลที่ได้ก็คือ ภาพมุมกว้างพิเศษที่สว่างขึ้นในตอนกลางคืน และภาพกว้างที่มีรายละเอียดมากขึ้นในตอนกลางวัน
ชอว์มองว่า พี 40 โปรนั้นเป็นเรือธงคู่แข่งกับกาแล็กซี เอส 20 โปร จากซัมซุง และไอโฟน 11 โปร โดยจากมุมของประสิทธิภาพฮาร์ดแวร์แล้วถือว่าสูสี แต่ด้อยกว่าในเรื่องของซอฟต์แวร์ เพราะแม้จะใช้ระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์รุ่นล่าสุดจากกูเกิ้ล แต่ต้องไม่ลืมว่าหัวเว่ยยังคงอยู่ในบัญชีองค์กรที่ไม่พึงประสงค์ของสหรัฐอเมริกา ตามดำริของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ ที่อ้างว่า อาจเป็นภัยต่อความมั่นคงของสหรัฐ เพราะหัวเว่ยอาจถูกพรรคคอมมิวนิสต์จีนใช้เป็นช่องทางในการสอดแนมความเป็นไปในสหรัฐได้ ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางหัวเว่ยยืนกรานปฏิเสธมาตลอด
อย่างไรก็ตาม หัวเว่ย พี 40 โปร เป็นสมาร์ตโฟนเรือธงถัดลงมาจาก พี 40 โปร พลัส ถือว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่ยอดเยี่ยม ไม่ว่าจะเป็นด้านจอภาพ การประกอบ การออกแบบ ระยะเวลาใช้งานแบตฯ และกล้องถ่ายภาพที่ดีที่สุด หากไม่สนใจเรื่องแอพฯ ของกูเกิ้ลที่ไม่มีแถมมาในเครื่อง แล้วต้องการมือถือที่มีกล้องดีที่สุดก็สอยได้เลย สนนราคาที่ 35,000 บาทขึ้นไป