หากกำลังมองหาคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊กทำงานที่มีความสามารถรอบด้านแบบมืออาชีพสักเครื่อง รีวิวนี้อาจตอบโจทย์ได้

หลังจากทีมข่าวสดไอทีมีโอกาสทดลองใช้เอ็กซ์เปิร์ตบุ๊ก (ExpertBook) อัลตราบุ๊กทำงานชั้นธุรกิจจากค่ายเอซุส ผู้พัฒนาเทคโนโลยีชื่อดังจากไต้หวัน ที่กำลังแรงไม่หยุดฉุดไม่อยู่ในตลาดเอเชียแปซิฟิกชั่วโมงนี้

อัลตราบุ๊กทำงานชั้นธุรกิจรุ่นนี้จากเอซุสเป็นหนึ่งในโน้ตบุ๊กที่ผู้ทดสอบคิดว่าดีที่สุดเท่าที่ทดสอบมาในปีนี้ ไม่ว่าจะเป็นโครงสร้างภายนอกไปจนถึง

ประสิทธิภาพภายใน และนวัตกรรมต่างๆ ที่ทางเอซุสใส่ใจจัดลงมาให้ ถือว่าเป็นโน้ตบุ๊กทำงานที่ทันสมัยมากๆ และจะเป็นหนึ่งใน ตัวเลือกที่ผู้ทดสอบต้องพิจารณาจริงจังหากหาโน้ตบุ๊กทำงานตอนนี้

ไฮไลต์สำคัญที่สุดของเอซุส เอ็กซ์ เปิร์ตบุ๊ก อยู่ที่น้ำหนักของเครื่อง เอซุสโฆษณาว่าเป็นโน้ตบุ๊กทำงานขนาด 14 นิ้ว ที่เบาที่สุดในโลก

จุดนี้ผลการทดสอบรู้สึกได้ครั้งแรกทันทีที่เปิดกล่องยกขึ้นมาถึงกับตกใจ เพราะนึกว่าทางเอซุสส่งพลาดเป็นตัว สินค้าม็อกอัพมาให้ (ฮา) ตัวเครื่องนั้นเบามากจริงๆ มีน้ำหนักเพียง 870 กรัมเท่านั้น เรียกว่าใครข้อมือแข็งๆ ใช้นิ้วคีบไว้ 3 นิ้วก็อยู่แล้ว (แต่อย่าถือแบบนั้นจะดีกว่า)

ส่วนการออกแบบภายนอกนั้นแลดู เกลี้ยงเกลา สุภาพเรียบร้อยดูเป็นมืออาชีพ โดยทางเอซุสนั้นใช้วัสดุจากโลหะผสมแมกนีเซียม-ลิเทียมอัลลอย ขึ้นรูปทั้งตัวเครื่อง ส่งผลให้เครื่องมีน้ำหนักเบาและทนทานต่อการตกกระแทก ผ่านมาตรฐานความแข็งแกร่ง MIL-STD 810G ของกองทัพสหรัฐอเมริกา ที่ทดสอบทั้งความดันอากาศ อุณหภูมิ แรงสั่นสะเทือน การตกกระแทก แรงกระแทกขณะทำงาน และของเหลวหกใส่แป้นพิมพ์ (แต่อย่าเอาไปใช้ใต้น้ำ)

เบาหวิว

ด้วยคุณลักษณะที่บรรยายมาทำให้โครงสร้างของเครื่องมีความแข็งแรง ผลการทดลองใช้ไม่พบว่ามีอาการบุบของที่พักข้อมือ หรือหน้าจอเครื่องบิดเบี้ยวได้ แม้จะมีความบาง 5 มิลลิเมตร จากความหนารวมตัวเครื่อง 14.9 ม.ม. ความกว้าง 203 ยาว 320 ม.ม.

สแกนลายนิ้วมือ

การกระจายน้ำหนักที่ตัวฐานทำได้ยอดเยี่ยม เปิดฝาจอขึ้นมาได้ด้วยมือเดียวแล้วฐานเครื่องไม่ยกตามขึ้นมา ขอบระหว่างจอและฐานเครื่องเป็นเหลี่ยมตัดเข้าหากันด้านในทำให้เปิดง่าย และยังมี ลูกเล่น ErgoLift ของเอซุสที่สันจอจะดันแนวหลังเครื่องขึ้นเมื่อยกจอ ส่งผลให้แป้นพิมพ์ทำมุม 7 องศา เข้าหาผู้ใช้มาด้วย

ขอบขวา

พื้นผิวทั้งหมดของเครื่องนั้นมีความหยาบทำให้จับง่ายและรู้สึกสบายไม่เหนอะหนะ ตั้งแต่ Webcam ที่ขอบบนของจอที่มีฝาเลื่อนปิดเลนส์เสริมความมั่นใจ หน้าจอ IPS LCD ขอบน้อยตามแบบฉบับดีไซน์ NanoEdge ของเอซุส ความละเอียดสูงสุดแบบ Full-HD ให้สีสันคมชัด แต่เสียดายที่สว่างน้อยไปนิดในที่แจ้ง (สูงสุด 300 นิต)

NumPad และ Touch Pad ในอันเดียว

ถัดลงมาที่ฐานด้านในเป็นแป้นพิมพ์ที่ทางเอซุสบรรจงออกแบบมาเพื่อการพิมพ์งานอย่างดี ด้วยแป้นพิมพ์แบบ ฟูลไซซ์ระยะห่าง 19.05 ม.ม. เส้นผ่านศูนย์กลางปุ่ม 0.15 ม.ม. และระยะการยุบตัว 1.5 ม.ม. และไฟแบ๊กไลต์สีขาว พร้อมการลงสีอักษรที่คอนทราสต์กับสีปุ่ม

ประสบการณ์การพิมพ์ด้วยเครื่องรุ่นนี้อยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม พิมพ์ได้นานไม่ล้า ขณะที่แบ๊กไลต์และการลงลายอักษรนั้นมีความชัดเจน ไม่เหมือนบางรุ่นที่ไฟแบ๊กไลต์ยิ่งทำให้มอง เห็นยาก

ความประทับใจยังไม่หมดเท่านั้น ถัดลงมาอีกเป็น Touch Pad พร้อม Precision driver ที่วางอยู่กึ่งกลางพอดี และมีความกว้างใหญ่ตอบสนองแม่นยำรวดเร็ว แผ่นกดมีความแข็งแรงไม่กระดกไปมาเวลากด ทั้งยังสามารถกดปุ่มที่มุมขวาบนของ Touch Pad เพื่อเปิด NumPad ขึ้นมาใช้งานเพิ่มเติมบน Touch Pad ได้ เรียกว่าแลดูหวือหวามากเลยทีเดียว นับว่าเป็น Touch Pad ที่ดีที่สุดแล้วสมัยนี้

นอกจากนี้ เซ็นเซอร์ลายนิ้วมือที่ทางเอซุสให้มานั้นอยู่ที่บริเวณเหนือจุดพักข้อมือด้านขวา มีการตอบสนองที่รวดเร็วแม่นยำเช่นกัน โดยผู้ทดสอบมองว่าชอบแบบนี้มากกว่าที่เป็นเซ็นเซอร์ฝังรวมไว้บนปุ่มปิด-เปิด ส่วนปุ่มปิด-เปิดของเอ็กซ์เปิร์ตบุ๊กรุ่นนี้จะอยู่ที่มุมขวาบนของแป้นพิมพ์ ชอบมากกว่าเอาไว้ที่ ขอบเครื่อง

ขอบซ้าย

การเชื่อมต่อต่างๆ ของเอ็กซ์เปิร์ตบุ๊ก ได้แก่ USB-A 3.1 จำนวน 1 พอร์ต และมินิสเตอริโอสำหรับหูฟังที่ ขอบด้านขวา ส่วนขอบด้านซ้ายเป็น USB-C สนับสนุน Thunderbolt 3 จำนวน 2 พอร์ต HDMI และ micro USB สำหรับ เสียบกับอะแด็ปเตอร์ Ethernet to micro USB ที่ทางเอซุสแถมมาให้กรณีต้องการเชื่อมต่อผ่าน LAN รวมถึงสัญญาณ Bluetooth และ Wi-Fi 6 มาตรฐาน Wi-Fi ใหม่ล่าสุด (แต่ผู้ใช้ต้องมีเราเตอร์ที่สนับสนุน Wi-Fi 6 ด้วย)

หน้าจอของเอ็กซ์เปิร์ตบุ๊กนั้นน่าจะเป็นจุดอ่อนที่สุดของรุ่นนี้หากเทียบกับคู่แข่งรายอื่นๆ ในช่วงราคาเดียวกัน แม้ความคมชัด ความแม่นยำของสี และองศาการมองกว้างมีการเพี้ยนของภาพและสีน้อย แต่ความสว่างสูงสุดเพียง 272 นิตนั้นส่วนตัวแล้วผู้ทดสอบมองว่าน้อยไป จึงมองว่าเอซุสน่าจะเจตนาออกแบบมาให้เป็นจอสำหรับใช้ทำงานเอกสารเป็นหลัก ไม่เหมือนกับตระกูล ZenBook ที่หน้าจอสว่างกว่าและครอบคลุมด้านความบันเทิงมากกว่า

เอ็กซ์เปิร์ตบุ๊กใช้ขุมพลังจากหน่วยประมวลผลกลาง หรือซีพียูรุ่น Intel Core i7-10510U ซึ่งเป็นซีพียูบนสถาปัตยกรรมการผลิตขนาด 14 นาโนเมตร (nm) ภายใต้การออกแบบวงจรรหัส Comet Lake (Q3 2019) ถือเป็นรุ่นที่ 10 และมีคอร์เพียง 4 คอร์ (Quad-core) แต่ติดตั้งเทคโนโลยี Hyper-Threading มาทำให้ทำงานได้เทียบเท่า 8 คอร์ และชดเชยด้วยความถี่สัญญาณนาฬิกาเทอร์โบที่สูงถึง 4.90 กิกะเฮิร์ซต์ (GHz) จากความถี่สัญญาณนาฬิกาฐานที่ 1.80 GHz

หน่วยความจำแรมแบบ DDR3 ความถี่ 2,133 เมกะเฮิร์ซต์ (MHz) หน่วยประมวลผลกราฟิก หรือ จีพียู แบบบิลด์-อิน Intel UHD Graphics พื้นที่เก็บข้อมูลภายในแบบ SSD บนอินเตอร์เฟซ NVMe ความจุ 2 เทร่าไบต์ (TB)

การทดสอบด้วยแอพพลิเคชั่น Geekbench 5 ได้คะแนนประมวลผลซีพียูแบบคอร์เดียวอยู่ที่ 1,139 แต้ม และหลายคอร์ที่ 2,310 แต้ม ส่วนการประมวลผลกราฟิกอยู่ที่ 3,352 แต้ม ถือว่าประสิทธิภาพของอัลตราบุ๊กรุ่นนี้รองรับการทำงานทั่วไปได้อย่างเหลือกินเหลือใช้ แต่จะมี จุดอ่อนด้านกราฟิก และไม่เหมาะสำหรับการทำงานกราฟิก หรือเล่นเกมที่ต้องใช้กราฟิกหนักๆ เพราะว่าเป็นโน้ตบุ๊กทำงานเอกสารอย่างหรู

เมื่อเปิดส่องดูภายในพบว่าการอัพเกรดแรมนั้นไม่สามารถทำได้เองเนื่องจากเป็นแรมแบบออนบอร์ด ส่วนหน่วยเก็บข้อมูลนั้นเป็น M.2 SSD ที่สามารถถอดออกมาอัพเกรดเองได้ (แต่อาจต้องใช้ไขควงหัวพิเศษจึงจะเปิดฝาหลังออกมาได้) แผงระบายความร้อนของรุ่นนี้อยู่ใต้เครื่อง จากการทดสอบใช้งานไม่พบปัญหาเรื่องความร้อนสูงจนน่ากลัว และเสียงพัดลมดังหนวกหู กลับกันเรียกว่าทำงานค่อนข้างเงียบเชียบกว่าที่คาดไว้

ลำโพง harman kardon

ส่วนเรื่องลำโพงนั้นรับการปรับแต่งเสียงจากค่าย Harman/Kardon ประเทศสหรัฐอเมริกา คุณภาพเสียงที่ได้ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม แต่เสียงอาจจะไม่ดังมากนัก ฟังเพลงในที่เงียบๆ ได้ดี แต่ถ้าเป็นภาพยนตร์ก็อาจจะได้อรรถรสไม่เต็มที่

ด้านแบตเตอรี่ของเครื่องที่ติดมานั้นเป็นขนาด 33 วัตต์ชั่วโมง (Wh) จากการทดสอบพบว่าใช้งานได้เต็มที่ประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง ที่ความสว่างสูงสุด และโหมดประสิทธิภาพสูงสุด แต่หากลดความสว่างลงมาเหลือร้อยละ 70 และใช้โหมดประหยัดพลังงานก็จะใช้งานได้ถึง 6 ชั่วโมง ยิ่งลดความสว่างเหลือต่ำสุด และใช้พิมพ์งานนั้นอยู่ได้นานถึงเกือบ 10 ชั่วโมงเลยทีเดียว

ทางเอซุสแถมชาร์จเจอร์ขนาด 65 วัตต์มาให้ ชาร์จจนเต็มได้ภายในเวลาเพียง 1 ชั่วโมงครึ่ง

ของแถม

สำหรับรุ่นที่ทางเอซุสโฆษณาว่าเบาที่สุดในโลกนั้นเป็นรุ่นที่มาพร้อมกับแบตฯ ขนาด 33 Wh โดยเอ็กซ์เปิร์ตบุ๊กนั้นมีอีกรุ่นที่เป็นรุ่นอัพสเป๊กมาพร้อมกับแบตฯ ขนาดใหญ่ถึง 66 Wh มีน้ำหนักเกือบๆ 1 กิโลกรัม หนักกว่ารุ่นที่รีวิวเล็กน้อย แต่ก็ถือว่ายังเบาอยู่ดีและน่าจะระยะเวลาการใช้งานที่คุ้มค่ากว่านี้ หากใครหาพบแล้วสนใจซื้อก็แนะนำเป็นรุ่นแบตฯ ใหญ่ได้ก็จะยิ่งดี

สรุปแล้ว เอซุส เอ็กซ์เปิร์ตบุ๊กเป็นโน้ตบุ๊กทำงานระดับพรีเมียมที่ดีที่สุดเท่าที่ทดสอบมาในปีนี้ เพราะมีเทคโนโลยีและลูกเล่นที่ทันสมัยครบครัน แม้จะมีข้อด้อยกว่าคู่แข่งที่จอภาพ และซีพียูของอินเทลที่กำลังตกเป็นรองเอเอ็มดีด้านจำนวนคอร์ช่วงนี้

ถือเป็นอีกตัวเลือกที่ผู้กำลังมองหาโน้ตบุ๊กทำงานชั้นธุรกิจไม่ควรพลาด

สนนราคาเริ่มต้นที่ 38,990 บาท วางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย

โดย…จันท์เกษม รุณภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน