‘หมี่ 11’ดีรอบด้าน เสียวหมี่เสนอราคาคุ้ม – การรีวิวเสียวหมี่ หมี่ 11 จากการทดสอบของทีมไอทีข่าวสด 2 สัปดาห์ เริ่มตั้งแต่เพ่งพินิจตั้งแต่งานออกแบบภายนอกเครื่อง มีขนาดกว้าง 74.6 ยาว 164.3 หนา 8.1 มิลลิเมตร น้ำหนักอยู่ที่ 196 กรัม ตัดสินได้ว่าเป็นสมาร์ตโฟนจอขนาด 6.81 นิ้ว ที่มีน้ำหนักค่อนข้างเบา มีการกระจายน้ำหนักได้ดี

นั่นเป็นเพราะมีแบตเตอรี่ขนาดเพียง 4,600 มิลลิแอมป์ชั่วโมง (mAh) และแม้ขนาดจอที่ว่านี้จะถือว่าใหญ่ แต่ยังไม่ถือว่าใหญ่ที่สุดจากค่ายนี้ (เสี่ยวหมี่ หมี่ 10ที ใหญ่กว่านี้)

หมี่ 11 มีสเป๊กที่ล้ำหน้ากว่าแน่นอน เพราะวัสดุที่ใช้เป็นกระจก Gorilla Glass Victus ทั้งด้านหน้าและหลังประกบกับขอบอะลูมิเนียมที่ออกแบบมาให้มีความโค้งมนทำให้เวลากำไวในอุ้งมือแล้วไม่รู้สึกว่าขอบคมจนเกินไป ความโค้งมนของกระจกหลังและหน้ายังไม่สมมาตรกันด้วย

กระจกด้านหลังมีความโค้งมากกว่าเพื่อสอดรับกับสรีระของมือขณะที่กระจกด้านหน้านั้นมีความโค้งเพียงเล็กน้อยทำให้ภาพแลดูมีมิติและเพิ่มหรูหราให้เครื่อง หากส่องดูจากขอบบนและล่างจะพบว่าการออกแบบนี้ทำให้แลดูเหมือนพานที่โอบจอไว้ เป็นการออกแบบที่สวยงาม

ขณะที่โมดูลกล้องนั้นเผยออกมาจากตัวเครื่องไม่มากนัก ส่วนเซ็นเซอร์สแกนลายนิ้วมือแบบ บนจอภาพ จากที่ทดสอบดูเหมือนว่าหากตอบสนองได้ไวกว่านี้จะดีมาก

สันขวาของเครื่องเป็นที่อยู่ของปุ่มปรับระดับเสียงและเปิด-ปิดเครื่อง มีความคมแตกต่างชัดเจนจากขอบมน การตอบสนองรวดเร็ว แต่ผู้ทดสอบรู้สึกว่าหลวมไป เล็กน้อย ทำให้โยกเยกได้บ้าง หากเสี่ยวหมี่ประกอบมาให้แน่นได้กว่านี้จะดี

สันด้านล่างของเครื่องมีถาดใส่ซิมการ์ดแบบนาโน สามารถใส่ได้ 2 ซิม (เป็นแบบถาดสองด้าน) ช่องเสียบสายชาร์จและรับส่งข้อมูลแบบ USB-C รวมทั้งช่องลำโพง โดยลำโพงของเสี่ยวหมี่ หมี่ 11 เป็นแบบสเตอริโอ มีอีกช่องอยู่ที่สันด้านบนเครื่อง พร้อมโลโก้สลักผ่านการปรับแต่งจากค่าย harman/kardon ประเทศสหรัฐอเมริกา (ในเครือซัมซุง เกาหลีใต้) แต่เครื่องไม่มีช่องเสียบหูฟังแบบมินิสเตอริโอ

คุณภาพเสียงจากลำโพงของหมี่ 11 นั้นถือว่ายอดเยี่ยมมาก เสียงดังกังวาล เวทีเสียงกว้างแยกเสียงเครื่องดนตรีได้เด็ดขาด มิติทางลึกชัดเจน เบสลูกเล็กแต่กระชับไม่คราง ย่านกลางเด่นพุ่งหาผู้ใช้ เสียงสูงหวานฉ่ำไม่คมบาดหู เสียงไม่เพี้ยนแม้เปิดระดับเสียงดังสุด ไม่มีอาการแตกให้ได้ยินแม้แต่น้อย ถือเป็นสมาร์ตโฟนที่มีลำโพงดีที่สุดเท่าที่ทีมข่าวสดไอทีทดสอบมาปีนี้

สําหรับหน้าจอแสดงผลของหมี่ 11 เป็นเทคโนโลยี AMOLED ขนาด 6.81 นิ้ว ถือว่าใหญ่กว่าบรรดาคู่แข่งเกือบทั้งหมด มีหลุมกล้องเซลฟี่อยู่ที่มุมซ้ายบน และด้านข้างของจอมีความโค้งเล็กน้อย พร้อมขอบบางๆ แลดูทันสมัย

ตัวจอมีความละเอียดสูงสุด 1,440 x 3,200 พิกเซล ความหนาแน่นพิกเซล 515 พิกเซลต่อตารางนิ้ว (ppi) อัตรารีเฟรชสูงสุด 120 เฮิร์ตซ์ (Hz) หมายความว่าจออัพเดตภาพ 120 ครั้งต่อวินาที ทำให้ภาพแลดูต่อเนื่องนุ่มลื่นตา ถือเป็นฟีเจอร์ที่กำลังเป็นเทรนด์มาแรงในสมาร์ตโฟนขณะนี้ แม้จะทำให้กินแบตฯ เพิ่มขึ้นก็ตาม ผู้ใช้เลือกเปิด-ปิดฟีเจอร์นี้ได้

ส่วนความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 1,500 นิต พื้นที่จอภาพต่อตัวเครื่องร้อยละ 91.4 อัตราส่วนภาพ 20:9 (เครื่องจะแลดูยาวๆ) สนับสนุนเทคโนโลยีภาพ HDR10+ ถือว่าเป็นจอภาพที่น่าสนใจกว่าคู่แข่งในราคานี้อย่าง ซัมซุง กาแล็กซี เอส 21

นอกจากนี้ หน้าจอของหมี่ 11 ยังมีความไวในการรับรู้ถึง 480 Hz (หมายความว่าจอสแกนหานิ้วมือของผู้ใช้ถึง 480 ครั้งต่อวินาที) เป็นฟีเจอร์ที่เหมาะกับการนำไปใช้เล่นเกม เพราะมีความไวต่อการรับรู้กว่าสมาร์ตโฟนทั่วไปถึง 8 เท่า ส่งผลให้หมี่ 11 มีความเป็นกึ่งเกมมิ่งโฟน หรือสมาร์ตโฟนสำหรับเล่นเกม รวมถึงความสว่าง 1,500 นิต ซึ่งถือว่าสูงสุดแล้วในบรรดาสมาร์ตโฟนพรีเมียมปัจจุบัน ช่วยให้การใช้งานในที่แจ้งชัดเจน และภาพ HDR มี คอนทราสต์ที่งดงามตระการตา ควบรวมกับฟีเจอร์ AI imagine engine ของเสียวหมี่ที่คอยทำหน้าที่สร้างเฟรมคั่นระหว่างภาพเคลื่อนไหวที่รับชมทำให้ภาพยนตร์ที่ชมนั้นมีความลื่นไหลและมีความชัดเจนมากขึ้นจากการอัพสเกลความละเอียดด้วย แม้จากการทดสอบจะพบว่าไม่ได้เวิร์กเสียทุกครั้งไป

การทดสอบเบนช์มาร์กของ CPU ผ่านแอพพลิเคชั่น Geekbench 5 ได้คะแนนคอร์เดี่ยวเฉลี่ย 1,124 แต้ม และหลายคอร์ 3,660 แต้ม ส่วนด้านกราฟิกผ่าน Wild Life ของแอพฯ 3DMark ได้คะแนนเฉลี่ยถึง 5,733 แต้ม

คะแนนทดสอบดังกล่าวถือว่าน่าประทับใจอย่างมาก เพราะเป็นหนึ่งในสมาร์ตโฟนแอนดรอยด์ที่สเป๊กแรงที่สุดในขณะนี้ แซงหน้า แม้แต่ ซัมซุง กาแล็กซี เอส 21 อัลตรา และเป็นรองอยู่เพียง ไอโฟน 12 โปร แม็กซ์ จากแอปเปิ้ลเท่านั้น

ความน่าประทับใจนี้สอดคล้องกับการทดสอบเล่นเกมกินสเป๊กสูงๆ อย่าง Genshin Impact จาก miHoYo ประเทศจีน แม้จะทำเฟรมเรตได้ไม่ถึง 60 เฟรมต่อวินาที (fps) ที่เกมสร้างไว้ แต่ถือเป็นสมาร์ตโฟนเครื่องแรกที่ทีมข่าวสดไอทีทดสอบมาแล้วเล่นเกมนี้ได้ลื่นไหล ทั้งขณะต่อสู้และการเปลี่ยนมุมกล้อง ที่กราฟิกระดับสูงสุด เรียกได้ว่าเป็นประสบการณ์การเล่นเกมใกล้ๆ เหมือนบนคอมพิวเตอร์เลยทีเดียว (แม้แต่กาแล็กซี อัลตรา จากซัมซุงที่ราคาสูงกว่านี้ยังไม่ลื่นเท่า) แน่นอนว่าเกมอื่นอย่าง PUBG และ Call of Duty : Mobile นั้นหายห่วง เสียวหมี่ หมี่ 11 มีสเป๊กที่แรงสามารถเล่นเกมได้อย่างยอดเยี่ยม

อย่างไรก็ดี น่าเสียดายที่หมี่ 11 นั้นมีแบตฯเพียง 4,600 mAh ซึ่งหากนำมาเล่นเกมติดต่อกันเป็นเวลานานหลายชั่วโมงแล้วเครื่องจะร้อนมาก และแบตฯ ลดลงอย่างรวดเร็วโดยจากการทดสอบสามารถเล่นเกมอย่าง Genshin Impact ได้ราวครึ่งวัน ส่วนการใช้งานปกตินั้นใช้ได้เต็มวันก็ต่อเมื่อใช้งานเล็กน้อย หากใช้งานหนักก็จะอยู่ไม่ถึงวัน

แต่ข้อเสียนี้ชดเชยด้วยการระบบการชาร์จพลังงานที่ค่อนข้างไวของเครื่อง โดยทางเสี่ยวหมี่แถมชาร์จเจอร์ขนาด 55 วัตต์ (W) มาให้ในกล่องพร้อมสายเคเบิล USB-C to USB-A มาให้ (นอกนั้นมีเพียงเคสซิลิโคน เข็มเจาะถาดซิม และคู่มือ ไม่แถมหูฟัง) โดยการทดสอบพบว่าสามารถชาร์จตั้งแต่ศูนย์จนถึงร้อยละ 85 ด้วยเวลาเพียง 30 นาที และชาร์จจนเต็มภายใน 50 นาที แม้ไม่ใช่สมาร์ตโฟนที่ชาร์จไวที่สุด แต่ถือว่าอยู่ในแนวหน้าของแวดวงไอทีแล้ว

กล้องถ่ายภาพของหมี่ 11 เป็นส่วนที่ทางเสี่ยวหมี่ปรับปรุงต่อยอดมาจากรุ่นที่แล้วน้อยที่สุด แต่เป็นหนึ่งในฟีเจอร์ที่น่าประทับที่สุดของเครื่อง เพราะคุณภาพที่ได้จากการถ่ายด้วยกล้องเหล่านี้นั้นถือว่าเด็ดดวง ไม่ย่อหย่อนกว่าแบรนด์ชั้นนำอื่นๆ

กล้องถ่ายภาพหลักของหมี่ 11 เป็นเลนส์วายความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ขนาดช่องรับแสง f/1.9 ถือเป็นสมาร์ตโฟนรุ่นที่ 5 แล้วจากทางเสี่ยวหมี่ที่ใช้เซ็นเซอร์ภาพรุ่นนี้จาก ซัมซุง

ผลการทดสอบพบว่า ภาพที่ได้นั้นมี คอนทราสต์ และโทนสีที่นุ่มนวลกว่ารุ่นก่อน คาดว่าน่าจะมาจากระบบปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ หากอยู่ที่สว่างภาพที่ได้จะออกมาชัดเจนสวยงาม ขณะที่ภาพในมืดพบว่ายังมีนอยส์ให้เห็นอยู่บ้าง

กล้องถัดมาเป็นเลนส์อัลตรา-ไวด์ ความละเอียด 13MP f/2.4 ซึ่งทางเสี่ยวหมี่ใช้มาตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 ผลจากเอไอทำให้ภาพที่ได้นั้นสว่างมากขึ้นกว่ารุ่นก่อนด้วย แต่คอนทราสต์ และความละเอียดสู้กล้องหลักไม่ได้ กล้องหลังตัวสุดท้ายเป็นกล้องความละเอียด 5MP f/2.4 ไว้ใช้สำหรับถ่ายภาพระยะประชิด (ซูเปอร์มาโคร) คุณภาพที่ได้นั้นสวยงาม รวมถึงเทคนิคถ่ายภาพเลนส์ละลาย หรือโบเกห์ ออกมา เด็ดขาดมาก

ส่วนเลนส์เทเลโฟโต้นั้นไม่มีในรุ่นนี้ ผู้ที่ต้องการเลนส์ตัวนี้ต้องขยับไปเล่นรุ่นเสียวหมี่หมี่ 11 โปรสำหรับรุ่นนี้ซูมเทียม (ดิจิตอล) ได้สูงสุด 30 เท่า แน่นอนว่าคุณภาพที่ออกมาไม่สู้ดีนัก ขณะที่กล้องเซลฟี่ที่ด้านหน้านั้นมีเลนส์เดียว ความละเอียด 20MP f/2.2 ถ่ายโบเกห์ได้เนียนพอสมควรในโหมด Portrait

หมี่ 11 เป็นสมาร์ตโฟนที่มีข้อเสียที่สุดอยู่ที่ระยะเวลาการใช้งาน หากใช้งานหนักมากก็จะอยู่ได้ไม่เต็มวัน แต่ข้อเสียนี้ชดเชยด้วยการ เป็นหนึ่งในมือถือกลุ่มสเป๊กแรงที่สุดของฝั่งแอนดรอยด์ ลำโพงที่ให้คุณภาพเสียงเด็ดดวง หน้าจอแสดงผลที่คมชัดสวยงามระดับแนวหน้าวงการทั้งในแง่ความหนาแน่นพิกเซล สีสันเตะตา ความสว่าง อัตรารีเฟรช และความไว แม้เทียบกับ หมี่ 10 จะไม่ได้เพิ่มอะไรขึ้นมามากจนหวือหวานัก ทว่าสำหรับคู่แข่งอื่นๆ โดยเฉพาะซัมซุง กาแล็กซี เอส 21 นั้นหมี่ 11 เป็นคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างยิ่ง

โดยเฉพาะเรื่องราคา เริ่มต้นที่ 21,990 บาทวางจำหน่ายแล้วในประเทศไทย

จันท์เกษม รุณภัย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน