นางชฎาทิพ จูตระกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท สยามพิวรรธน์ เปิดเผยว่า บริษัทได้ลงนามร่วมทุนกับ ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป เป็นผู้พัฒนาลักชัวรี่พรีเมียมเอาต์เล็ต รายแรกของโลกมากว่า 40 ปี ปัจจุบันเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยมูลค่าหุ้นในตลาดกว่า 80,000 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 2.56 ล้านล้านบาท ปัจจุบันเป็นเจ้าของโครงการลักชัวรี่พรีเมียมเอาต์เล็ต รวม 96 แห่งทั่วโลก โดย 15 แห่ง อยู่ในเอเชีย ประกอบด้วยญี่ปุ่น 9 แห่ง อาทิ โกเท็มบะ พรีเมียม เอาต์เล็ต เป็นต้น ส่วนอีก 4 แห่งในเกาหลี และ 2 แห่งในมาเลเซีย

ล่าสุดเตรียมจะขยายการลงทุนในไทย 3 แห่ง ภายใต้แผน 3-5 ปีจากนี้ มูลค่าการลงทุนมากกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งแห่งแรกอยู่ในตะวันออกของกรุงเทพฯ บนพื้นที่ 150 ไร่ พื้นที่เช่าประมาณ 50,000 ตร.ม. เตรียมจะเปิดให้บริการได้ภายในปลายปี 2562 รูปแบบการพัฒนาเป็นเมืองตัวอย่างของการอนุรักษณ์สิ่งแวดล้อม นอกจากจะมีร้านค้าปลีกจำหน่ายสินค้าลักชัวรี่แบรนด์เนมนระดับโลก และลักชัวรี่แบรนด์เนมของไทย มากกว่า 200 ร้านค้า ในราคาส่วนลด 25-70% แล้ว ยังมีร้านอาหาร และศูนย์การเรียนรู้ เพื่อสร้างประสบการณ์ให้กับกลุ่มเป้าหมายคนไทย 60% และ นักท่องเที่ยวต่างชาติอีก 40% ประกอบกับด้วยรูปแบบธุรกิจในครั้งนี้จะเอื้อให้สยามพิวรรธ์สามารถขยายการลงทุนไปยังต่างจังหวัดรอบประเทศไทย

“ปัจจุบันมีลักชัวรี่พรีเมียมเอาต์เล็ต รายล้อมประเทศไทย ทำให้บริษัทมองว่าถึงเวลาแล้วที่ประเทศไทยจะต้องมี โดยบริษัทเป็นติดต่อไซม่อนพร็อพเพอร์ตี้มากกว่า 12 เดือนที่ผ่านมา และไซ่มอน พร็อพเพอร์ตี้ ได้เล็งเห็นแล้วว่าประเทศไทยมีศักยภาพและพร้อมแล้ว นอกจากประชากรของไทยที่มี 70 ล้านคนแล้ว ยังมีปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ปัจจุบันมีมากถึง 35 ล้านคน และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ปีละ 15-20% อย่างไรก็ดี หลังจากนี้บริษัทจะทยอยเปิดตัวจะมีพันธมิตรอีกหลายรายที่จะมาร่วมสร้างเมืองตัวอย่างของการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมนี้ด้วย”

ด้านนายมาร์ค ซิลเวสทรี รองกรรมการผู้จัดการ ไซม่อน พร็อพเพอร์ตี้ กรุ๊ป เปิดเผยว่า กรุงเทพฯ เป็นหนึ่งในเมืองที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก ด้วยผู้คนที่ความเป็นคนเมือง และนักท่องเที่ยวจำนวนมหาศาลจากทั่วโลก ซึ่งการร่วมทุนครั้งนี้ถือเป็นการเปิดตลาดในประเทศไทยเป็นครั้งแรก ซึ่งการตัดสินใจร่วมมือกับสยามพิวรรธน์ บ่งบอกถึงความน่าเชื่อถือของสยามพิวรรธน์ ในความเป็นผู้นำค้าปลีกอันดับหนึ่งของประเทศไทยด้วย และไม่เฉพาะเพียงแค่มีประสบการณ์ในธุรกิจค้าปลีกเพียงอย่างเดียว แต่ยังมีความแข็งแกร่งด้านการเงินอีกด้วย ซึ่งมีโอกาสที่จะเป็นลักชัวรี่พรีเมียมเอาต์เล็ตที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย

อย่างไรก็ดี การร่วมทุนครั้งนี้ภายใต้บริษัท สยาพิวรรธน์ ไซม่อน จำกัด ทุนจดทะเบียน 130 ล้านบาท สัดส่วนการถือหุ้น 50/50

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน