นายฐิติ ลุจินตานนท์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร บริษัท ซี.พี. อินเตอร์เทรด จำกัด หรือ ข้าวตราฉัตร เปิดเผยว่า ครึ่งหลังปี 2561 ซีพี เอนเตอร์เทรด จะผลักดันให้ส่งออกมากขึ้น โดยจะมุ่งเจาะตลาดค้าปลีก โมเดิร์นเทรดรายใหญ่ ในตลาดสหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป (อียู) เช่น วอล์มาร์ท แซมส์คลับ ที่ผู้บริโภคต่างชาติให้ความเชื่อมั่นในคุณภาพสินค้า จากเดิมที่การส่งออกของข้าวตราฉัตรจะมุ่งในตลาดคนเอเชียเป็นหลัก โดยข้าวหอมมะลิที่วางจำหน่ายในห้างโมเดิร์นเทรดเหล่านี้จะรับประกันการปลอมปน ต้องเป็นหอมมะลิแท้อย่างน้อย 92% รวมทั้งการส่งออกจะหันกลับมาดีอีกครั้งในช่วงไตรมาสสุดท้ายที่ข้าวออกสู่ตลาดมาก

“ปัจจุบันคนยุโรปและอเมริกาหันมาสนใจข้าวของไทยมากขึ้น หากห้างต่างๆ เหล่านี้ยอมรับไปจำหน่ายจะประกันด้านคุณภาพข้าวของไทย สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภคได้อีกลำดับ ซึ่งข้าวตราฉัตรส่งออกทั้งในรูปแบรนด์ตราฉัตรเอง และ OEM แต่ต้องระบุที่มาว่าเป็นข้าวของไทย”

สำหรับตลาดในข้าวถุงปรับตัวสูงขึ้น หลายฝ่ายคาดว่าขนาด 54 กิโลกรัม (ก.ก.) ต่อถึง จะมีราคาถึง 300 บาทนั้น เป็นไปได้ยากเพราะข้าวในประเทศมีหลากหลายพันธุ์ การปรับขึ้นของราคาจะทำให้ผู้บริโภคหันไปซื้อข้าวชนิดอื่น ซึ่งขณะนี้เริ่มเห็นแล้วจากราคาข้าวผสม ระหว่างหอมมะลิ หอมปทุมธานี ได้รับความนิยมมากขึ้น

ส่วนการส่งออกข้าวตราฉัตรในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมาปรับลดลงเล็กน้อย 5-10% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เนื่องจากไม่มีข้าว แต่มูลค่าปรับเพิ่มขึ้น เพราะราคาส่งออกดีมาก เทียบกับปี 2560/61 อยู่ที่ตันละ 800-900 ดอลลาร์เท่านั้น อย่างไรก็ตาม ยังคาดว่ารายได้ในปีนี้จะเป็นไปตามเป้าที่กำหนดไว้ 18,000 ล้านบาท สัดส่วนเป็นรายได้จากการส่งออก 70% และในประเทศ 30%

ทั้งนี้ เพื่อยกระดับคุณภาพของข้าวตราฉัตร ตามแผน 5 ปี (2560-64) จะร่วมมือกับเกษตรกรปลูกข้าวหอมมะลิพันธุ์ดีให้ได้ 1.5 ล้านไร่ ทั้งภาคเหนือและอีสาน ทั้งหมดต้องได้รับรอง GAP เพื่อให้สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งกระบวนการผลิต ปัจจุบันมีเกษตรกรเข้าร่วมโครงการนี้ 1.2 แสนไร่ ซึ่งการขยายพื้นที่ทำได้ช้าเพราะเกษตรกรไม่พร้อม และเจ้าหน้าที่รัฐในการรับรอง GAP มีน้อย

นายฐิติ กล่าวว่า ราคาส่งออกข้าวปรับลดลงเล็กน้อย โดยข้าวหอมมะลิจากตันละ 1,200 ดอลลาร์ เหลือ 1,150 ดอลลาร์ ทั้งนี้ เพราะผู้นำเข้ารอข้าวใหม่ที่กำลังจะออกสู่ตลาดในเดือนพ.ย.-ธ.ค.นี้ ถือเป็นเรื่องปกติของตลาด แต่ทั้งนี้ เนื่องจากความต้องการตลาดข้าวยังมีอยู่อย่างต่อเนื่องจึงคาดว่าราคาข้าวหอมมะลิความชื้น 25% ในฤดูกาลใหม่ปี 2561/62 นี้ จะยังอยู่ในระดับตันละ 15,000 บาท ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา กรณีที่ข้าวมีความชื้นสูงเกษตรกรจะได้รับราคาประมาณตันละ 9,000-10,000 ต่อตัน

“ราคาข้าวในช่วงที่ผ่านมาปรับขึ้นสูงมาก ถึงตันละ 1,300 ดอลลาร์ เนื่องจากผลผลิตในตลาดมีน้อย ในขณะที่สต๊อกข้าวของรัฐไม่มีแล้ว ไม่มีอะไรมากดราคา อีกทั้งข้าวหอมมะลิของไทยไม่มีคู่แข่ง ทำให้โอกาสเป็นของไทย ซึ่งคาดว่าในปีนี้โดยรวมจะส่งออกได้ประมาณ 2 ล้านตัน”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน