นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (สกพอ.) เปิดเผยว่า ทางทีมงานอีอีซี เดินหน้าขับเคลื่อนการดึงดูดนักลงทุน โดยจัดงานโรดโชว์ “Eastern Economic Corridor (EEC): Thailand 4.0 in Action” ณ Keidanren Hall กรุงโตเกียว ตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ เพื่อผลักดันให้เกิดการลงทุนจากนักลงทุนญี่ปุ่นที่มีศักยภาพในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) อย่างเป็นรูปธรรมโดยเร็ว โดยได้รับความร่วมมือสนับสนุนจากธนาคาร Mizuho ประเทศญี่ปุ่น ตามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ที่ได้ลงนามร่วมกันไปแล้วก่อนหน้านี้

ทั้งนี้ สกพอ. นำเสนอแผนการพัฒนาพื้นที่อีอีซี รวมถึงโครงการลงทุนสำคัญของและสิทธิประโยชน์การลงทุน ให้กับผู้บริหารบริษัทชั้นนำญี่ปุ่นกว่า 230 ราย พร้อมทั้งเชิญชวนนักลงทุนให้ขยายการลงทุนมายังพื้นที่อีอีซี โดยกล่าวถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยที่มีมายาวนาน พร้อมกันนี้ได้ให้ความมั่นใจว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีความตั้งใจที่ขับเคลื่อนการพัฒนาอีอีซีอย่างจริงจัง มีการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมรับการเติบโตของภาคอุตสาหกรรมรวมถึงการสร้างเมืองให้เป็นเมืองเชิงนิเวศ

นอกจากนี้ ยังปรับปรุงกฎระเบียบเพื่ออำนวยความสะดวกต่อการลงทุนและการดำเนินธุรกิจด้วย โดย สกพอ. ได้ดำเนินการให้สิทธิประโยชน์การลงทุนให้กับนักลงทุนญี่ปุ่นที่จะลงทุนอีอีซี เพื่อให้นักลงทุนญี่ปุ่นมั่นใจว่าจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี ทั้งนี้ ธนาคาร Mizuho มีบทบาทสำคัญให้การสนับสนุนการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินให้กับนักลงทุนญี่ปุ่นที่สนใจจะลงทุนในพื้นที่อีอีซี โดยอาศัยความพร้อมทางด้านเงินทุนและการมีเครือข่ายระดับโลก

อย่างไรก็ตาม การจัดกิจกรรมชักชวนนักลงทุนของ สกพอ. ในครั้งนี้ มุ่งเน้นการดึงดูดนักลงทุนญี่ปุ่นที่มีศักยภาพ ครอบคลุม 10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ซึ่งกรุงโตเกียวเป็นศูนย์รวมบริษัทชั้นนำของญี่ปุ่นที่มีความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยีสมัยใหม่จำนวนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสาขาหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติ สาขาการแพทย์สมัยใหม่ สาขาการขนส่งและโลจิสติกส์ เป็นต้น นอกจากนี้ คณะจะมีการพบปะกับบริษัทญี่ปุ่นชั้นนำหลายบริษัทเพื่อสานต่อการเจรจาที่ดำเนินการอยู่ อาทิ บริษัท Nachi Fujikoshi ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านอุตสาหกรรมเครื่องจักรและหุ่นยนต์ของญี่ปุ่น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน