นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารสินทรัพย์ รักษาการผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศ (รฟท.) เปิดเผยว่า วันที่ 31 ก.ค. นี้ รฟท. จะเสนอให้บอร์ดพิจารณาอนุมัติโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เฟส 2 จำนวน 8 เส้นทาง วงเงินกว่า 4 แสนล้านบาท จากนั้นภายในเดือนก.ย. จะนำเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาอนุมัติ คาดว่าจะเปิดประมูลได้ทั้งหมดภายในปีนี้ อย่างช้าภายในต้นปี 2562

สำหรับ 8 เส้นทางนั้น ในส่วนของทางคู่ต่อขยาย 7 เส้นทาง คือ ปากน้ำโพ-เด่นชัย, ขอนแก่น-หนองคาย, ชุมพร-สุราษฎร์ธานี, สุราษฎร์ธานี-สงขลา, หาดใหญ่-ปาดังเบซาร์, ชุมทางถนนจิระ-อุบลราชธานี และเด่นชัย-เชียงใหม่ นั้น คาดว่าก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งหมด ปี 2566

ส่วนรถไฟ ส่วนทางคู่สายใหม่อีก 1 เส้นคือ บ้านไผ่-มุกดาหาร-นครพนม ภายหลังผ่านครม. แล้ว คาดว่าต้องใช้ระยะเวลามาก เนื่องจากต้องมีการเวนคืนที่ดินจำนวนมากเพราะเป็นเส้นทางใหม่

นายวรุฒิกล่าวต่อถึง รถไฟทางคู่เฟส 2 สายใหม่อีก 1 สาย ที่ผ่านความเห็นชอบจากบอร์ดรถไฟฯ ไปก่อนหน้านี้ โดยอยู่ระหว่างรอการพิจารณาอนุมัติจาก ครม. คือ เด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ นั้น คาดว่าภายหหลังจากที่ ครม. มีมติอนุมัติ รฟท. จะต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 6 เดือน จึงจะได้ตัวผู้ชนะการประมูลได้ เนื่องจากจะต้องมีการเวนคืนที่ดินตลอดแนวเส้นทาง เพราะเป็นเส้นทางใหม่ที่ขอนอกเขตทางรถไฟ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างจัดจ้างที่ปรึกษา จัดทำร่างเวนคืนตามพระราชกฤษฎีกากําหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และจัดทำทีโออาร์ คาดว่าภายใน 2 ปี จะสามารถเวนคืนที่ดินได้แล้วเสร็จทั้งหมด และเริ่มงานก่อสร้างได้ในปี 2564 แล้วเสร็จปี 2567-68

ทั้งนี้ ยอมรับว่าภาวะราคาน้ำมันดีเซลที่ปรับสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลต่อต้นทุนการเดินรถ โดยเร็วๆ นี้ เตรียมหารือกับ ปตท. เพื่อทำข้อตกลงซื้อน้ำมันในระยะยาว 10 ปี เพื่อให้ได้รับส่วนลดราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นจากปัจจุบันที่ชี้รูปแบบทำสัญญาปีต่อปี คาดว่าเมื่อทำสัญญาระยะยาว ปตท. จะเพิ่มส่วนลดราคาน้ำมันให้เพิ่มขึ้นอีกลิตร 30 สตางค์ คือจากจาก ลิตรละ 50-55 สตางค์ เป็นลิตรละ 80-90 สตางค์ ซึ่งก็จะทำให้ รฟท. ประยัดค่าใช้จ่ายค่าน้ำมันเชื้อเพลิงได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากรฟท. มีการใช้น้ำมันมากถึงปีละ 100 ล้านลิตร

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน