น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยตัวเลขการส่งออกเดือนมิ.ย. 2561 มีมูลค่า 21,799 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 8.2% เติบโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 16 เนื่องจากการส่งออกสินค้ากลุ่มอุตสาหกรรม สินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรยังขยายตัวได้ดี รวมถึงการส่งออกไปรายตลาดยังขยายตัวได้ดี ทั้งญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และจีน โดยเฉพาะสหรัฐ ส่งออกเดือนมิ.ย. มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มีมูลค่า 2,500 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่งผลให้การส่งออกตั้งแต่เดือนม.ค.-มิ.ย. มีมูลค่า 125,811 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 11% และเป็นการขยายตัวสูงสุดในรอบ 7 ปี

ขณะที่การนำเข้าเดือนมิ.ย. มีมูลค่า 20,201 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 10% เกินดุลการค้า 1,579 ล้านเหรียญสหรัฐ ทำให้ครึ่งปีแรกการนำเข้ามีมูลค่า 121,356 ล้านเหรียญสหรัฐ ขยายตัว 15.6 การค้าเกินดุล 1,877 ล้านเหรียญสหรัฐ

“ไทยไม่ได้รับผลกระทบทางลบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน แต่ได้รับอานิสงส์จากภาวะดังกล่าว เนื่องจากไทยสามารถส่งออกไปตลาดสหรัฐสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ถือว่าประเทศไทยสามารถพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ อย่างไรก็ตาม กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามไม่ให้มีการทำผิดกฎระเบียบด้านการค้า และยืนยันประเทศไทยทำการค้าโดยคำนึงถึงกฎระเบียบทางการค้า และหวังว่าสหรัฐจะไม่จับตาการค้าของไทย” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว

ส่วนแนวโน้มการส่งออกครึ่งปีหลังคาดการณ์จะเป็นไปตามเป้าหมาย 8% โดยในวันที่ 7 ส.ค.นี้ รมว.พาณิชย์ จะเชิญภาคเอกชนรายใหญ่ในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมเข้ามาหารือเพื่อประเมินตัวเลขการส่งออกทั้งปีร่วมกันอีกครั้ง ทั้งนี้ หากการส่งออกขยายตัวได้ 9% ในช่วง 6 เดือนที่เหลือจะต้องผลักดันการส่งออกให้ได้ 22,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และหากการส่งออกมีโอกาสขยายตัวได้ 10% จะต้องผลักดันการส่งออกในช่วงที่เหลือให้ได้ไม่น้อยเดือนละ 22,414 ล้านเหรียญสหรัฐ

อย่างไรก็ตาม แม้การส่งออกจะขยายตัวได้ดีแต่ยังมีความกังวลเพราะประเทศผู้ซื้อหลักเริ่มมีสัญญาณชะลอคำสั่งซื้อสินค้าเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจในประเทศเอง ทั้งจีน ญี่ปุ่น และสหรัฐ ประกอบกับการมีสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ดังนั้นไทยจะต้องเร่งผลักดันการส่งออกในช่วงครึ่งปีหลัง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน