นายวรวุฒิ มาลา รองผู้ว่าการกลุ่มธุรกิจการบริหารทรัพย์สิน รักษาการในตำแหน่งผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าของการพัฒนารถไฟความเร็วสูง (ไฮสปีดเทรน) ภายใต้กรอบความร่วมมือไทย-ญี่ปุ่น โดยระบุว่า ตามที่รัฐบาลเร่งผลักดันโครงการ จะมีการก่อสร้างในระยะ 1 ช่วงกรุงเทพฯ-พิษณุโลก ในระยะทาง 380 กิโลเมตร (ก.ม.) วงเงินลงทุนราว 2.7 แสนล้านบาท ขณะนี้พบว่ากระทรวงคมนาคมอยู่ระหว่างทบทวนความเหมาะสมและความคุ้มค่า

สำหรับผลการศึกษาพัฒนาโครงการพบว่า ปริมาณผู้โดยสารที่จะใช้อาจมีเฉลี่ยเพียง 1-2 หมื่นคนต่อวัน ซึ่งถือเป็นปริมาณผู้โดยสารที่ยังไม่คุ้มค่าต่อการลงทุน เนื่องจากปริมาณที่เหมาะสมของโครงการไฮสปีดเทรนส่วนใหญ่จะต้องมีผู้โดยสารใช้งานเฉลี่ย 3 หมื่นคนต่อวัน หรือหากจะสร้างกำไรแก่การลงทุน ควรมีปริมาณผู้โดยสารสูงเฉลี่ย 4-5 หมื่นคนต่อวัน

“ตอนนี้ทางญี่ปุ่นได้ส่งผลการศึกษามาแล้ว และอยู่ระหว่างกระทรวงคมนาคมทบทวนการลงทุน เพราะประเด็นสำคัญอยู่ที่ความคุ้มค่า รายได้ที่จะได้รับ เนื่องจากปริมาณผู้โดยสารยังน้อย ดังนั้นความเป็นไปได้ที่จะทำให้โครงการนี้น่าลงทุน คือการดึงเอาพื้นที่เชิงพาณิชย์มาพัฒนาในโครงการด้วย โดยอาจจะพัฒนาในลักษณะของศูนย์กลางคมนาคม หรือ TOD เพื่อนำเอารายได้จากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์มาช่วยให้โครงการคุ้มทุน”

นายวรวุฒิ ยังกล่าวอีกว่า พื้นที่ศักยภาพสูงที่จะนำมาพัฒนา TOD จากการประเมินมองว่า จ.พิษณุโลก มีความเหมาะสมในการพัฒนาเป็นอีกฮับของการเชื่อมต่อการเดินทาง ส่วนแนวทางการลงทุนอาจจะคล้ายกับรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และสายสีชมพู โดยรัฐบาลอาจต้องเป็นผู้ดูแลค่าใช้จ่ายงานก่อสร้างโยธาแล้วให้เอกชนเข้ามาดูแลงานระบบและงานบริหาร หรือหากจะจัดตั้งเป็นบริษัทร่วม หรือ SPV รัฐก็จะต้องมอบสิทธิ์ให้ SPV สามารถเวนคืนที่ดินเพื่อพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์ได้

ด้านนายชัยวัฒน์ ทองคำคูณ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) กล่าวว่า ปัจจุบันผลการศึกษาของโครงการไฮสปีดเทรนไทย-ญี่ปุ่น เฟสแรกแล้วเสร็จ โดย สนข. ได้รวบรวมข้อมูลเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว เหลือเพียงนโยบายของรัฐบาลที่จะเร่งผลักดันหรือไม่ ในส่วนของความชัดเจนด้านเงินลงทุน ปัจจุบันญี่ปุ่นยังไม่ยืนยันที่จะเข้ามาร่วมทุน ระบุเพียงขอเป็นส่วนช่วยในการจัดทำแผนพัฒนาเท่านั้น ทั้งนี้ หากจะให้ประเมินความคุ้มค่าของการลงทุนโครงการ แน่นอนว่าหากมีพื้นที่เชิงพาณิชย์ก็จะเป็นส่วนช่วยในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน