นายฮิเดสึ อิโตะ ประธสนเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัทพานาโซนิคในประเทศไทย เปิดเผยว่า ปี 2561 เป็นปีครบรอบ 100 ปี แห่งการก่อตั้งพานาโซนิคในประเทศญี่ปุ่น และครบรอบ 57 ปี ของพานาโซนิคในประเทศไทย ซึ่งปัจจุบันมีทั้งหมด 20 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทผู้ผลิต 11 บริษัท เป็นบริษัทขาย 4 บริษัท ลงทุน 4 บริษัท และบริษัทวิจัยและพัฒนา 1 บริษัท ซึ่งแผนธุรกิจในไทยจากนี้จะมุ่งผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในตลาดพรีเมียมมากขึ้น เพื่อหลีกเลี่ยงการแข่งขันราคากับสินค้าจากจีน ซึ่งบริษัทมองแล้วว่าไม่สามารถเอาชนะจีนได้
พร้อมกันนี้เมื่อ 6 เดือนที่แล้วบริษัทแม่ที่ญี่ปุ่นได้จัดตั้งแผนกใหม่ภายใต้ ดิเวลลอปเปอร์ โซลูชั่น ทีม เพื่อทำการตลาดร่วมกับพันธมิตรธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในรูปแบบสมาร์ทโฮมโซลูชั่น หรือกลุ่ม อีโค โซลูชั่น (ES) ในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มุ่งตอบโจทย์การอยู่อาศัยที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาบริษัทเปิดตัวนาโนอี เทคโนโลยี ในเครื่องปรับอากาศ ปีนี้จะมีการต่อยอดไปสู่ระบบเครื่องระบายอากาศ เครื่องฟอกอากาศ ตลอดจนการวางระบบไฟและสิ่งอำนวยความสะดวกภายในบ้าน ซึ่งขณะนี้บริษัทเซ็นสัญญากับผู้ประกอบอสังหาฯ ของไทยแล้ว แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ขณะเดียวกันบริษัทจะมุ่งนำเสนอสินค้าเทคโนโลยีสำหรับลูกค้าองค์กรมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ (Auromotive & Industrial Systems – AIS) เนื่องอุตสาหกรรมยานยนต์ ประเทศไทยมีการเติบโตต่อเนื่อง และเป็นฐานการผลิตรถยนต์เพื่อการส่งออก
อย่างไรก็ดี จากแผนการดำเนินงานดังกล่าว บริษัทเชื่อมั่นว่าจะผลักดันรายได้ของพานาโซนิค ประเทศไทย ให้ไปสู่เป้าหมายที่ 1 แสนล้านบาท ภายในอีก 2 ปีข้างหน้า หรือปี 2563 หลังจากไตรมาสแรกปี 2562 (1 เม.ย-30 มิ.ย.2561) มีรายได้ลดลง 5% หรืออยู่ที่ 7,000 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ดีคาดว่าทั้งปีจะสามารถเติบโตได้ 3-4% จากปีที่แล้วที่รายได้ 9.1 หมื่นล้านบาท ซึ่งเติบโตจากปีก่อนหน้า 1% ขณะที่รายได้พานาโซนิคทั่วโลกมีการเติบโตถึง 9% หรืออยู่ที่ 2.5 ล้านล้านบาท ในขณะเดียวกันส่วนของการรับรู้ของแบรนด์พานาโซนิคในไทย ล่าสุดเป็นอันดับ 3 โดยบริษัทมีเป้าหมายจะเพิ่มอันดับการรับรู้แบรนด์ให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการทำตลาดมากขึ้นจะเป็นหนึ่งในยุทศาสตร์ที่ทำควบคู่ไปกับการรุกตลาดสินค้าพรีเมี่ยมและตลาดลูกค้าองค์กรมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันพานาโซนิคทั่วโลกรวมถึงไทยแบ่งการดำเนินงานเป็น 4 กลุ่ม คือกลุ่มผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (AP) โดยทั่วมีสัดส่วนการขาย 32% ขณะที่ไทยอยู่ที่ 30% กลุ่ม ES ทั่วโลกมีสัดส่วนการขาย 20% ในไทยอยู่ที่ 9% โดยเป้าหมาย 5 ปี จะเพิ่มสัดส่วนเป็น 20% กลุ่ม Connection Solution Company (CNS) สัดส่วน 14% ในไทยอยู่ที่ 2% และ กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ 34% ในไทยอยู่ที่ 59%
