รายงานข่าวจากบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) แจ้งว่า ปตท. ปรับขึ้นราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (เอ็นจีวี) 29 สตางค์ต่อกิโลกรัม (ก.ก.) มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ส.ค-15 ก.ย. 2561 ส่งผลให้ราคาขายปลีกเอ็นจีวีในกรุงเทพฯ ยังไม่รวมภาษีบำรุงท้องถิ่นอยู่ที่ 14.58 บาทต่อก.ก. จากเดิมราคา 14.29 บาทต่อก.ก. ซึ่งเป็นผลพวงจากราคาน้ำมันดิบตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นก่อนหน้านี้

ด้านนายเทวินทร์ วงศ์วานิช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ราคาก๊าซธรรมชาติในไทยจะเพิ่มขึ้น แต่ราคาก็ยังต่ำกว่าก๊าซธรรมชาติเหลว (แอลเอ็นจี) ตลาดจร เพราะไทยมีก๊าซธรรมชาติที่ผลิตเองในอ่าวไทยและนำเข้าจากเมียนมา แต่หากในอนาคตปริมาณก๊าซในอ่าวไทยลดน้อยลง ต้องพึ่งพาแอลเอ็นจีนำเข้า ราคาในไทยก็จะขยับขึ้นทั้งในส่วนที่ใช้เป็นเชื้อเพลิงโรงไฟฟ้า รถยนต์และอื่นๆ

แต่ทั้งนี้ ปตท. ยังคงดำเนินนโยบาอุดหนุนราคาเอ็นจีวีรถยนต์สาธารณะตามนโยบายรัฐบาล เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทั้งรถเมล์ รถตู้ รถแท็กซี่ รถตุ๊กๆ ที่ระดับราคา 10.62 บาท/ก.ก. ไปจนถึงวันที่ 1 ก.ค. 2562 ตามนโยบายของรัฐบาล ทำให้ ปตท. รับภาระขาดทุนเอ็นจีวีต่อไป แต่จะลดลงจากเดิมที่คาดว่าจะขาดทุน 5,000 ล้านบาท/ปี

อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งปีแรก 2561 ที่ผ่านมา ปตท. ขาดทุนการค้าเอ็นจีวี ประมาณ 2,806 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 135 ล้านบาท เพราะรัฐบาลอนุมัติให้ปรับราคาสะท้อนต้นทุนเพิ่มขึ้นและปรับค่าปรับปรุงคุณภาพก๊าซ ประกอบกับในช่วง 3 ปีที่ผ่านมาราคาน้ำมันอยู่ในเกณฑ์ต่ำ ทำให้ผู้ใช้รถเอ็นจีวีลดลง เห็นได้จากยอดขายเอ็นจีวีครึ่งแรกของปี 2561 อยู่ที่ 6,303 ตันต่อวัน ลดลง 581 ตันต่อวัน

รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุด ปตท. และบางจาก ประกาศปรับราคาขายปลีกน้ำมันทุกชนิดลดลง 30 สตางค์ต่อลิตร ส่งผลให้ราคาขายปลีกน้ำมันเบนซินอยู่ที่ 36.56 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 95 อยู่ที่ 29.45 บาทต่อลิตร แก๊สโซฮอล์ 91 อยู่ที่ 29.18 บาทต่อลิตร E20 อยู่ที่ 26.54 บาทต่อลิตร ดีเซลอยู่ที่ 28.89 บาทต่อลิตร ดีเซลพรีเมียมอยู่ที่ 31.89 บาทต่อลิตร ยกเว้น E85 ลดลง 15 สตางค์ต่อลิตร มีผลตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค. 2561 เวลา 05.00 น. เป็นต้นไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน