นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังได้อนุญาตให้ผู้ประกอบการสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัดภายใต้การกำกับ หรือ พิโกไฟแนนซ์ สามารถให้สินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ซึ่งจะทำให้ผู้ประกอบธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ให้บริการสินเชื่อได้มากขึ้น

นอกจากนี้ ยังเพิ่มโอกาสให้ประชาชนรายย่อยที่เป็นเจ้าของยานพาหนะสามารถใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินของตนเองเพื่อให้เข้าถึงแหล่งเงินทุนได้สะดวกขึ้น ซึ่งจะเป็นการลดปัญหาหนี้นอกระบบในอีกทางหนึ่ง โดยเงื่อนไขการปล่อยกู้ยังเป็นเหมือนเดิมคือปล่อยสินเชื่อได้รายละไม่เกิน 5 หมื่นบาท คิดดอกเบี้ยและค่าใช้จ่ายได้รวมกันไม่เกิน 36% ต่อปี

ปัจจุบันธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ที่ได้รับอนุญาตและเปิดดำเนินการแล้ว 287 ราย ใน 60 จังหวัด มีการปล่อยสินเชื่อไปแล้ว 2.65 หมื่นราย เป็นวงเงินสินเชื่อ 680 ล้านบาท โดยมีหนี้เสียเพียง 2.69% เท่านั้น โดยผู้ประกอบการสามารถปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ได้ทันที

นายพรชัย กล่าวว่า สศค. ยังได้หารือกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ให้ผู้ประกอบการปล่อยกู้จำนำทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ ให้กับบุคคลรายย่อยได้มากกว่า 5 หมื่นบาท ซึ่งทาง ธปท. อยู่ระหว่างการพิจารณารายละเอียดและกฎหมายอ้างอิง คาดว่าผู้ที่สนใจปล่อยสินเชื่อจะต้องมาขอใบอนุญาตประกอบการกิจการใหม่ เพราะพิโกไฟแนนซ์เป็นการปล่อยกู้อเนกประสงค์และถูกจำกัดไว้ไม่ให้ปล่อยกู้เกิน 5 หมื่นบาทบาท

จากการสำรวจข้อมูลของ สศค. และ ธปท. ปัจุบันมีผู้ประกอบการทั้งรายใหญ่และเล็กประกอบกิจการจำนำ ทะเบียนรถยนต์ และรถจักรยานยนต์ 1,000 ราย ปล่อยกู้ให้รายย่อย 3 ล้านราย เป็นวงเงินสินเชื่อ 2 แสนล้านบาท

นอกจากนี้ คลังยังอยู่ระหว่างการเสนอร่างพระราชบัญญัติการกำกับดูแแลผู้ให้บริการทางการเงิน พ.ศ. … ให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์กับผู้ใช้บริการเงินประเภท การให้เช่าซื้อ การให้เช่าแบบลีสซิ่ง และแฟคตอริ่ง ที่ปัจจุบันยังไม่มีกฎหมายและหน่วยงานกำกับที่ดูแลอย่างชัดเจน และประชาชนจำนวนมากยังขาดความรู้ความเข้าใจในการเปรียบเทียบและเลือกใช้ผลิตภัณฑ์สินเชื่อที่ดีเพียงพอ จึงมีแนวโน้มที่ผู้ใช้บริการจะเป็นฝ่ายเสียประโยชน์ เช่น ให้ทำสัญญาที่มีเงื่อนไขไม่เป็นธรรม ถูกเรียกดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียมในอัตราที่ไม่เหมาะสม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน