รายงานข่าวจากการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า ขณะนี้ รฟท. เร่งรัดโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่เพิ่มเติมอีกหลายเส้นทาง ทั้งเฟส 2 และเฟส 3 ตามนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการส่งเสริมให้มีการเดินทางและขนส่งสินค้าทางรางซึ่งมีต้นทุนที่ถูกให้มากขึ้น เพื่อเร่งพัฒนาความสามารถในการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการของไทยและอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร ดังนั้น รฟท. จึงมีความจำเป็นจะต้องลงทุนก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงใหม่ เพื่อรองรับการซ่อมบำรุงขบวนรถไฟที่จะเพิ่มขึ้นจำนวนมาก เบื้องต้นมีโครงการที่จะลงทุนก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงใหม่จำนวน 3 แห่ง วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น 7,500 ล้านบาท

ทั้งนี้ จะเร่งดำเนินโครงการก่อสร้างโรงซ่อมบำรุงหัวรถจักรแห่งใหม่ บริเวณชุมทางแก่งคอย จ.สระบุรี ก่อนเป็นโรงแรก คาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนประมาณ 1,700 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำทีโออาร์ เพื่อปรับแก้ไขราคากลางให้สอดคล้อง คาดว่าจะเปิดประมูลได้ในเดือนธ.ค. 2561 โดยโรงซ่อมบำรุงแห่งนี้ จะใช้สำหรับการซ่อมบำรุงรักษารถจักรดีเซลไฟฟ้าขนาด 20 ตัน/เพลา จำนวน 20 คัน และรถจักรอีก 50 คัน ที่รฟท. เตรียมจัดซื้อเพิ่มเติมในอนาคต

สำหรับโรงซ่อมที่ 2 ที่จะเร่งดำเนินการคือ โรงซ่อมบำรุงรถสินค้าขนาด 8 หมื่นตารางเมตร บริเวณคลอง 19 จ.ฉะเชิงเทรา คาดว่าจะใช้วงเงินลงทุนไม่เกิน 3,000 ล้านบาท แบ่งเป็นวงเงินก่อสร้าง 2,000 ล้านบาท และการติดตั้งอุปกรณ์อีกไม่เกิน 1,000 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาความเหมาะสม และออกแบบโครงการขั้นสุดท้าย คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนก.ย. นี้ จากนั้นจะเสนอให้คณะกรรมการ (บอร์ด) รฟท. พิจารณาในปี 2562 และเสนอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาตามลำดับ

ตั้งเป้าที่จะเปิดประมูลในรูปแบบการให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน (PPP) ในช่วงต้นปี 2563 เริ่มงานก่อสร้างช่วงครึ่งหลังของปี 2563 ใช้เวลาก่อสร้างอีก 2 ปี แล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2565-2566 ซึ่งโรงซ่อมแห่งนี้จะสร้างขึ้นทดแทนโรงซ่อมบำรุงรถสินค้าย่านพหลโยธินเพราะไม่ต้องการให้นำรถเข้ามาซ่อมในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งในอนาคตต้องจัดหารถสินค้าบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ใหม่อีกกว่า 1,000 คันในอนาคต เพื่อเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางจาก 11.8 ตัน/ปี เป็น 35.38 ตัน/ปี ตามนโยบายของรัฐบาลจึงต้องการพื้นที่เพิ่มขึ้น

รายงานข่าวจาก รฟท.ระบุว่า โครงการสุดท้ายคือ โรงซ่อมหนักรถโดยสารประเภทชุดบนพื้นที่ 252 ไร่ วงเงินรวม 2,807 ล้านบาท บริเวณ จ.สุพรรณบุรี ขณะนี้อยู่ระหว่างออกแบบละเอียด ในอนาคตจะใช้รองรับการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ รถโดยสารใหม่ 115 คัน ที่จะมีการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ 6-8 ปีต่อครั้ง รวมถึงรถโดยสารดีเซลราง 186 คัน ที่อยู่ระหว่างขออนุมัติโครงการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน