นายสมชาย หาญหิรัญ รมช.อุตสาหกรรม กล่าวในโอกาสเป็นประธานการประชุมหารือกับหัวหน้าส่วนราชการและภาคเอกชนในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน 1 (บึงกาฬ เลย หนหนองคาย หนองบัวลำภู และอุดรธานี) และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 (ตาก พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย และอุตรดิตถ์) เพื่อเตรียมเข้าร่วมการประชุมคณะรัฐมนตรีนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) วันที่ 18 ก.ย. ว่า เบื้องต้นภาคเอกชนนำเสนอ 3 ประเด็นหลัก คือ การจัดตั้งศูนย์พัฒนาต่อยอดนวัตกรรมผลไม้และพืชผักเศรษฐกิจภาคเหนือตอนล่าง 1 เป็นศูนย์กลางการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมสำหรับการรับรองมาตรฐานของผลไม้ และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องสำอาง ทั้งยังจดทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ผลไม้และพืชผัก

การก่อตั้งศูนย์ Excellent Center เพื่อวิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ด้านผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยใช้ชื่อว่า “Sabai Dee Excellent Center for Local Development” เป็นศูนย์กลางการเชื่อมโยงกลุ่มจังหวัดในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน 1 และกลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนล่าง 1 ส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยและนวัตกรรมทางการเกษตรและขับเคลื่อนการสร้างองค์ความรู้ด้านการแปรรูป การตลาดและส่งเสริมสินค้าเกษตร เพื่อการสร้างมูลค่าเพิ่มให้ผลผลิตทางการเกษตรแก่เกษตรกรและประชาชนทั่วไปในเขตพื้นที่ โดยใช้พื้นที่ในมหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี พื้นที่ 2.9 ไร่

การสนับสนุนให้กลุ่มจังหวัดเป็นคลัสเตอร์ยางพารา เพื่อสนับสนุนให้มีการพัฒนาเรื่องยางพาราอย่างครบวงจร โดยเฉพาะการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผลผลิตยางพารา โดยเกษตรกรส่วนใหญ่มีการผลิตยางก้อน ซึ่งมีมูลค่าต่ำ จึงเสนอให้มีการจัดตั้งศูนย์การแปรรูป การพัฒนาและศึกษาวิจัยผลิตภัณฑ์ เพื่อมุ่งเน้นให้เกิดนวัตกรรมเพื่อนำยางพาราไปใช้ในการผลิตผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น สำหรับใช้ในประเทศและส่งออกไปยังต่างประเทศ

“โดยข้อเสนอที่ภาคเอกชนในพื้นที่เสนอทั้ง 3 ประเด็นนั้นจะสรุปและมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาขยายผล ให้สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกลุ่มจังหวัดต่อไป”นายสมชาย กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน