นายปิยบุตร จารุเพ็ญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกอินดัสเทรียลแก๊ส จำกัด หรือบีไอจี (BIG) ผู้นำนวัตกรรมก๊าซอุตสาหกรรมครบวงจร เปิดเผยในโอกาสที่นำสื่อมวลชนเยี่ยมชมโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 ซึ่งเป็นคอมเพล็กซ์ก๊าซอุตสาหกรรมตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี จ.ชลบุรี ว่า บริษัทเตรียมงบลงทุนทั้งในและต่างประเทศ 4,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสำหรับลงทุนโรงแยกอากาศ 4 โครงการในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ภายใน 4 ปี (2561-64) รองรับอุตสาหกรรมเป้าหมายตามนโยบายของรัฐบาล ส่งผลให้มีกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นรวมอยู่ที่ 2.1 ล้านตันต่อปี จากปัจจุบันมีกำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 1.5 ล้านตันต่อปี มูลค่าทรัพย์สินรวม 10,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ 4 โครงการ ประกอบด้วยโรงผลิตก๊าซโฮโดรเจน ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด จ.ระยอง เงินลงทุน 600 ล้านบาท กำลังการผลิต 12,000 ตันต่อปี คาดแล้วตามมีแผนวางไว้ปี 2562 โรงผลิตก๊าซอุตสาหกรรมในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ จ.ระยอง ร่วมกับบริษัท อมตะคอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เงินลงทุน 400 ล้านบาท กำลังการผลิต 50,000 ตันต่อปี คาดแล้วเสร็จปี 2562

โรงผลิตก๊าซไนโตรเจนและออกซิเจนแห่งใหม่ ในนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด เงินลงทุน 2,000 ล้านบาท กำลังการผลิต 450,000 ตันต่อปี คาดแล้วเสร็จปี 2563 โรงผลิตก๊าซไนโตรเจนและออกซิเจน ในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี หรือ BIG 3 เงินลงทุน 500 ล้านบาท กำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปี คาดแล้วเสร็จปี 2564 และการลงทุนโรงผลิตก๊าซไนโตรเจนและออกซิเจนที่เมืองติลาวา ในย่างกุ้ง ประเทศเมียนมา เงินลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท กำลังการผลิต 100,000 ตันต่อปี คาดแล้วเสร็จปี 2563

นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างหารือกับกระทรวงอุตสาหกรรมลงทุนโครงการห้องเย็น/แช่เยือกแข็งผลไม้ในพื้นที่ อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เพื่อรองรับผลไม้ในพื้นที่โครงการระเบียงผลไม้ภาคตะวันออก หรืออีเอฟซี (EFC) คาดใช้ขนาดพื้นที่ประมาณ 10 ไร่ เงินลงทุนไม่เกิน 100 ล้านบาท ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการที่ตั้งอยู่ในเมืองอัจฉริยะ (สมาร์ตพาร์ค) โดยเบื้องต้นยังเจรจากับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และบริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี เกี่ยวกับการบริหารจัดการและระบบขนส่ง คาดจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนช่วงต้นปี 2562 แต่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับการขับเคลื่อนของภาครัฐเป็นหลัก

“ความต้องการก๊าซอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเติบโตตามการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรม โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซีเนื่องจากโรงงานส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ก๊าซอุตสาหกรรมในการผลิตเพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ใหม่ใหม่ที่สามารถเพิ่มมูลค่าตามแนวทางของรัฐบาลที่มุ่งยกระดับสินค้าไทยทั้งในด้านการสร้างความแตกต่างและการสร้างคุณค่าให้ผลิตภัณฑ์เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม”นายปิยบุตรกล่าว

นายปิยบุตร กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทให้การสนับสนุนผลิตภัณฑ์และบริการด้านก๊าซอุตสาหกรรมมา 30 ปี ปัจจุบันโรงแยกอากาศแห่งที่ 3 ที่นิคมอุตสาหกรรมเหมราชชลบุรี มีกำลังการผลิตก๊าซอุตสาหกรรมกว่า 1,400 ตันต่อวัน หรือ 530,000 ตันต่อปี ซี่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีส่วนสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของประเทศ แบ่งเป็นการผลิตไนโตรเจนเพื่อป้อนอุตสาหกรรมเหล็ก อิเล็กทรอนิกส์ ยานยนต์ อาหารและเครื่องดื่ม 200,000 ตันต่อปี

ขณะเดียวกัน ยังสามารถผลิตออกซิเจนเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมเหล็ก กระจก การแพทย์ รวมถึงการนำไปใช้ในระบบบำบัดน้ำเสีย 300,000 ตันต่อปี และการผลิตอาร์กอนสำหรับเชื่อมโลหะเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ ก่อสร้าง อิเล็กทรอนิกส์ 11,000 ตันต่อปี ส่งผลให้กำลังการผลิตก๊าซอุตสาหกรรมโรงแยกอากาศทั้งในอีอีซี ทั้งใน จ.ชลบุรีและระยอง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน