นายจอห์น เฉิน ผู้อำนวยการ บริษัท เสียวหมี่ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดเผยว่า รวมตลาดสมาร์ตโฟนทั่วโลกในปี 2561 ชะลอตัวลง 6% แต่เสียวหมี่เป็นหนึ่งใน 2 แบรนด์สมาร์ตโฟนที่ยังมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว 21.2% รวมถึงตลาดในประเทศไทยก็ยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องเช่นกัน และเป็นผู้ผลิตสมาร์ตโฟนรายใหญ่อันดับ 4 ของสมาร์ตโฟนทั่วโลก ซึ่งล่าสุดมีจัดส่งสมาร์ตโฟนได้กว่า 100 ล้านเครื่อง สำหรับกลยุทธ์การทำตลาดในไทยขณะนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง โดยจะมุ่งเน้นที่การใช้งานที่ดี การดีไซน์สวยงาม ในราคาเข้าถึงง่าย มีความคุ้มค่าสูงและมีสเป็กที่ดี
ขณะเดียวกันในปีนี้ผู้บริโภคไทยมีการรับรู้แบรนด์เสียวหมี่เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัว เนื่องจากบริษัทมีการทำสื่อผ่านรถไฟฟ้าบีทีเอส บิลบอร์ด และการทำเวิร์กช็อป ซึ่งดูได้จากจำนวนแฟนเพจ Mi Fans ที่เพิ่มขึ้นจาก 30,000 คน ในปีที่แล้ว เป็น 150,000 คนในปีนี้ ในส่วนของจำนวนสาขา หมี่ สโตร์ ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายสมาร์ตโฟนเสียวหมี่ ล่าสุดเปิดไปแล้ว 15 สาขา โดยไอคอนสยาม จะเป็นสาขาแฟลกชิพสโตร์ และหลังจากนี้จะทยอยเปิดให้ครบ 30 สาขาในปีนี้ โดยจะมีทั้งในกรุงเทพฯ หัวเมืองใหญ่และหัวเมืองรองในต่างจังหวัดด้วย รวมถึงยังจำหน่ายในช่องทางออนไลน์กับ 3 พันธมิตรหลัก คือ ลาซาด้า เจดี เซ็นทรัล และชอปปี้ ซึ่งกลุ่มราคาสมาร์ตโฟนของเสียวหมี่ที่ขายดีที่สุดอยู่ระหว่าง 5,000-10,000 บาท
สำหรับตลอดปีนี้เสียวหมี่ได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนไปแล้ว 17-18 รุ่น โดยเฉพาะสมาร์ตโฟนในตระกูล Mi 8 ได้รับการตอบรับดีมากด้านความคุ้มค่า ทำให้ล่าสุดได้เปิดตัวสมาร์ตโฟนรุ่น Mi 8 Pro จับตลาดพรีเมียม ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์แสกนนิ้วใต้หน้าจอ ตอบสนองฉับไว ปลดล็อกหน้าจอเพียงนิ้วสัมผัสช่วยประหยัดพลังงานมากขึ้น มาในสีทรานส์แพเร้นท์ ไทเทเนี่ยม ความจุ 8GB+128GB เริ่มจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 11 พ.ย.นี้ บนแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ ลาซาด้า ราคา 19,900 บาท พร้อมของสมนาคุณนาฬิกาอัจฉริยะ Amazfit Bip
และรุ่น Mi 8 Lite จับกลุ่มเด็กรุ่นใหม่ที่ชอบถ่ายรูปเซลฟี่ ซึ่งมีจำหน่าย 2 สี ออโรร่า บลู และ มิดไนท์ แบล็ค ความจุ 6GB+128GB เริ่มจำหน่ายในประเทศไทยวันที่ 11 พ.ย.นี้ บนแพลตฟอร์มร้านค้าออนไลน์ เจดี เซ็นทรัล ในราคา 9,990 บาท พร้อมของสมนาคุณสายรัดข้อมือ Mi Band 3 และ ลำโพงบลูทูธ Mi Mini Bluetooth Speaker รวมมูลค่ากว่า 1,600 บาท
อย่างไรก็ดี ทั้ง 2 รุ่นนี้ จะเริ่มจำหน่ายในร้านตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ในวันที่ 15 พ.ย.นี้ และหากไม่มีปัญหาเรื่องกำลังการผลิตคาดว่าในเดือนธ.ค.นี้ เตรียมจะเปิดตัวรุ่น Mi mix 3 ด้วยเช่นกัน
