นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ อธิบดีกรมทางหลวงกรมทางหลวง(ทล.) กระทรวงคมนาคม เปิดเผยถึงสถิติอุบัติเหตุบนทางหลวงทั่วประเทศประจำ เดือนตุลาคม 2561 ว่า พบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้นจำนวน 783 ครั้ง ทำให้มีผู้เสียชีวิต 156 คน ได้รับบาดเจ็บทั้งสิ้น 771 คน จำนวนรถที่เกิดอุบัติเหตุ 1,117 คัน เป็นเหตุให้ทรัพย์สินของกรมทางหลวงเสียหายประมาณ 11 ล้านบาท

สาเหตุหลักการเกิดอุบัติเหตุมาจากผู้ขับขี่ขับรถด้วยความเร็วสูงกว่ากฎหมายกำหนด 64% (502 ครั้ง) รองลงมาได้แก่ หลับใน 9% (74 ครั้ง) การตัดหน้าระยะกระชั้นชิด 9% (67 ครั้ง) และอุปกรณ์รถบกพร่อง 3% (20 ครั้ง) โดยส่วนมากเกิดบริเวณทางตรง 60% (471 ครั้ง) ทางโค้งปกติ 17% (135 ครั้ง) และทางแยก 8% (59 ครั้ง) ยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุส่วนใหญ่ ได้แก่ รถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อ 33% (371 คัน) รถยนต์นั่ง 27% (307 คัน) และรถจักรยานยนต์ 11% (128 คัน) โดย เส้นทางในภาคเหนือเกิดอุบัติเหตุสูงสุด 29% ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 23% และภาคใต้ 17%

” ทางหลวงหมายเลข 1 ประตูน้ำพระอินทร์ – หนองแค เกิดอุบัติเหตุสูงสุดจำนวน 14 ครั้ง สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากทางตรง รถที่เกิดอุบัติเหตุเป็นรถปิคอัพบรรทุก 4 ล้อเกิดจากความประมาทของผู้ขับขี่และใช้ความเร็วสูงทำให้รถเฉี่ยวชนเสียหลักตกถนน อีกทั้ง หากจำแนกตามรายจังหวัดพบว่า จังหวัดนครราชสีมาเกิดอุบัติเหตุสูงสุด รองลงมาได้แก่ จังหวัดตาก จังหวัดแพร่ ตามลำดับ”

อย่างไรก็ตาม ทล.มีมาตรการแก้ไขที่ได้ดำเนินการร่วมกับตำรวจทางหลวงในการบังคับใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการตรวจจับความเร็วยานพาหนะที่วิ่งบนทางหลวง ซึ่งเป็นมาตรการที่สำคัญในการลดและป้องกันอุบัติเหตุ ที่อาจเกิดขึ้น กรมทางหลวงขอความร่วมมือผู้ใช้ทางโปรดขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพื่อความปลอดภัยของท่านและ ผู้ร่วมทาง รวมถึงป้องกันและลดอุบัติเหตุให้ได้ประสิทธิผลและขอความร่วมมือปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงคมนาคม “ขับรถช้า เปิดไฟหน้า คาดเข็มขัด”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน