นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการพัฒนา Smart City ที่ท่าเรือแหลมฉบัง ร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เพื่อส่งเสริมให้ท่าเรือแหลมฉบัง เป็นโครงการนำร่องในการพัฒนาระบบการบริหารจัดการท่าเรืออัจฉริยะ หรือ Smart Port

เนื่องจากปัจจุบันท่าเรือแหลมฉบังมีตู้คอนเทนเนอร์ขนส่งมากถึง 7 ล้านทีอียู และจะเพิ่มสูงขึ้นอีก 1 เท่าตัว รวมทั้งยังมีแผนที่จะก่อสร้างท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 เพิ่มเติม จึงมีความจำเป็นต้องนำระบบไอทีเข้ามาสนับสนุนการจัดการซึ่งความร่วมมือนี้จะทำให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารจัดการท่าเรือแหลมฉบัง

อย่างไรก็ดี ความร่วมมือดังกล่าวจะเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่งอัจฉริยะด้วยการเชื่อมโยงข้อมูลการขนส่งหลากหลายรูปแบบ (Multimodal Transportation) ของการส่งออกและนำเข้าบริเวณท่าเรือแหลมฉบัง บูรณาการข้อมูลสำหรับผู้เกี่ยวข้อง เพิ่มความสะดวก ความคล่องตัวการบริหารจัดการตู้คอนเทนเนอร์ การขนส่งและการจราจร ลดต้นทุนโลจิสติกส์ ลดปัญหาจราจร ตลอดจนผลักดันนโยบายการบริหารจัดการใช้งานจองคิวรถบรรทุก และให้มีการชำระค่าบริการผ่านระบบ Smart Portทำให้ท่าเรือแหลมฉบังเป็นประตูสู่การขนส่งสินค้าในอีอีซี และประเทศไทยอย่างสมบูรณ์

ด้านนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า การดำเนินการพัฒนาSmart City จะใช้เงินลงทุนร่วมกันระหว่างภาครัฐและเอกชนฝ่ายละ 50 ล้านบาท โดยเชื่อว่าในอนาคตจะมีส่วนสำคัญช่วยสร้างประโยชน์ทั้งทางด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งการพัฒนาด้านเทคโนโลยีของไทยที่ในอนาคตต้องเข้าสู่ยุค 5G ตามทิศทางเทคโนโลยีการสื่อสารของโลก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน