เอสซีจี ชู 2 ยุทธศาสตร์เดินหน้าไม่หยุด – พร้อมบริหารความเสี่ยงฝ่าปัจจัยลบ ปีนี้ยังตั้งเป้าการเติบโตของแต่ละกลุ่มอยู่ที่ 5% เนื่องจากภาพรวมตลาดอาเซียนไปได้ดี

เอสซีจี ชู 2 ยุทธศาสตร์เดินหน้าไม่หยุด – นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปูนซิเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) หรือเอสซีจี เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ความไม่สงบทางด้านการเมืองระหว่างประเทศ การกีดกันการค้าของสหรัฐและจีน รวมถึงการพัฒนาของเทคโนโลยีที่ไม่แน่นอน ทำให้การแข่งขันของตลาดมีผลกระทบ โดยเอสซีจีกำหนดยุทธศาสตร์ไว้ 2 ด้าน ได้แแก่ 1. การให้ความสำคัญกับความมั่นคงขององค์กร โดยเฉพาะด้านการเงิน ซึ่งเราต้องบริหารความเสี่ยงควบคู่ไปด้วย

2. การเจริญเติบโต ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายไว้ว่าจะต้องไม่หยุดเดินหน้า ตามโอกาสทางการค้าที่เปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะตอบโจทย์ลูกค้าให้ได้ รวมถึงการเดินหน้าในเรื่องที่ชำนาญอยู่แล้วให้มีความเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพสูงที่สุดในตลาด โดยจะต้องหาความสมดุลระหว่างความมั่นคงและการเจริญเติบโตขององค์กรให้ได้

รุ่งโรจน์ รังสิโยภาส

“พอเราทำความเข้าใจกับความไม่แน่นอนได้ และปรับตัวกับความผัวผวนให้เร็วที่สุดเราก็จะเดินหน้าต่อไปได้ โดยในปีนี้เอสซีจียังคงตั้งเป้าในการเติบโตของแต่ละกลุ่มอยู่ที่ 5% เนื่องจากภาพรวมตลาดอาเซียนยังคงไปได้ดี ซึ่งจากที่ผ่านมาการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจ (จีดีพี) อาเซียนอยู่ที่ 5-5.5%”นายรุ่งโรจน์ กล่าว

นายรุ่งโรจน์ กล่าวว่า ปีนี้เอสซีจีตั้งเป้าตัวเลขลงทุนอยู่ที่ 60,000 ล้านบาท แบ่งเป็นต่างประเทศประมาณ 70% ยังไม่รวมการควบรวมกิจการที่อยู่ในต่างประเทศ (เอ็มแอนด์เอ) โดยในส่วนนั้นบริษัทก็ได้เตรียมงบไว้ประมาณหนึ่ง ถ้ามีโครงการที่เข้ามาให้พิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นโอกาสเนื่องจากอยู่ในพื้นที่ที่มีฐานลูกค้าอยู่แล้วบริษัทก็พร้อมที่จะเข้าซื้อกิจการ

โดยบริษัทให้ความสำคัญกับการพัฒนาองค์กรให้เข้มแข็ง เพื่อรองรับความผันผวนของสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นคือการเดินหน้าแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (เซอร์คูลา อีโคโนมี) ซึ่งเริ่มลงมือทำโดยทำควบคู่ไปกับการสนับสนุนของรัฐบาล ที่เริ่มแรกนี้เป็นการร่วมมือกับกลุ่มลูกค้าของเอสซีจีในการในการกำจัดขยะในโครงการต่างๆ (เวสท์แมเนจเม้นท์)

“เป็นการนำขยะที่เป็นของที่ไม่ได้ใช้ในโครงการต่างๆ ของลูกค้าเรา เข้าสู่กระบวนการเซอร์คูลา โดยเฉพาะกลุ่มกระดาษ พลาสติก ที่เป็นหนึ่งในวัตถุดิบสำคัญที่สามารถเข้ากระบวนการนำกลับมาใช้ใหม่ได้ ถึงในช่วงแรกนี้อาจจะยังเห็นไม่มากเนื่องจากเราไม่ได้มาจากสายงานรีไซเคิล แต่การเข้าร่วมมือกับคู่ค้าก็ทำให้เรามีทิศทางที่จะดำเนินการต่อไปแล้ว ทั้งยังศึกษาลู่ทางที่จะเข้าไปลงทุนในธุรกิจไบโออีโคโนมีด้วย แต่ปัจจุบันยังต้องศึกษาในเรื่องของความพอเเพียงในตัววัตถุดิบและการสนับสนุนของรัฐบาลในอนาคตด้วย”นายรุ่งโรจน์ กล่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน