ปตท.เดินหน้ารุก‘ซีแอลเอ็มวี’ ปูพรมCafe´ Amazonกัมพูชา

ปตท.เดินหน้ารุก‘ซีแอลเอ็มวี’ ปูพรมCafe´ Amazonกัมพูชา – หลายปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัท ปตท. ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศมากขึ้น

น.ส.จิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ.ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก เปิดเผยว่า ปตท. ได้เร่งเดินหน้าลงทุนต่างประเทศ ทั้งซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และกลุ่มประเทศแถบเอเชีย ปัจจุบันเปิดให้บริการแล้ว 6 ประเทศ กัมพูชา ลาว เมียนมา ญี่ปุ่น ฟิลิปปินส์และโอมาน ในลักษณะมาสเตอร์แฟรนไชส์

ปตท.เดินหน้ารุก‘ซีแอลเอ็มวี’ ปูพรมCafe´ Amazonกัมพูชา

ล่าสุดอยู่ระหว่างศึกษาลงทุนในเวียดนาม เนื่องจากเศรษฐกิจเติบโตต่อเนื่อง และเป็นเพียงประเทศเดียวที่ PTTOR ยังไม่มีการลงทุน นอกจากนี้จะเร่งขยายลงทุนในกัมพูชาต่อเนื่องด้วย

ในประเทศกัมพูชา ปตท. เข้าไปลงทุนตั้งแต่ปี 2538 มี PTT Oil amd Retail Business Company Limited (PTTOR) เป็นผู้ถือหุ้น เริ่มต้นด้วยการจดทะเบียนในรูปแบบสำนักงานผู้แทน ก่อนจะจดทะเบียนบริษัทในนาม PTT (Cambodia) Limited หรือ PTTCL ในปี 2543 เพื่อเติมน้ำมันอากาศยานก่อนจะขยายธุรกิจสถานีบริการโดยมีชาวกัมพูชาเป็นผู้ลงทุน 5 สถานี

ปตท.เดินหน้ารุก‘ซีแอลเอ็มวี’ ปูพรมCafe´ Amazonกัมพูชา

จากนั้นได้เข้าสู่ธุรกิจสถานีบริการน้ำมันอย่างเต็มรูปแบบ โดยมีธุรกิจ Retail อยู่ในสถานีบริการน้ำมันซึ่งมี 15 สถานี ซึ่ง Chaba Ampov เป็นสาขาแรก รวมถึงเริ่มดำเนินธุรกิจ Jiffy ในรูปแบบเป็นเจ้าของเองและมีแผนจะรุกตลาดก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) ครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมเพราะมาร์จิ้นสูง

นายบุญมา พจธนกรกุล รักษาการกรรมการผู้จัดการบริษัท PTTCL กล่าวว่า ปตท. ตั้งเป้าเป็นผู้นำในแบรนด์การค้าน้ำมันในกัมพูชาภายในปี 2563 เพื่อแข่งขันกับคาลเท็กซ์ และเชฟรอน ในกัมพูชา

โดยในปี 2562 ตั้งงบลงทุนไว้ 200 ล้านบาท เพื่อขยายสถานีบริการน้ำมันเพิ่มขึ้นเป็น 90 แห่งทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่มีอยู่ 62 แห่ง และมีแผนจะขยายเพิ่มขึ้นปีละ 25 แห่ง ซึ่งมีกลุ่มธุรกิจมากมายสนใจที่จะร่วมลงทุนด้วย

ในปี 2560 ปตท. มียอดขายน้ำมัน 317 ล้านลิตร ในจำนวนนี้เป็นน้ำมัน อากาศยาน 215 ล้านลิตร ส่วนธุรกิจ PTTCL ที่ประกอบการอยู่ในกัมพูชามีหลายรูปแบบ อาทิ สถานีบริการน้ำมัน, Jiffy, คลังน้ำมันและคลังอากาศยานและร้านกาแฟ Cafe´ Amazon

ปตท.เดินหน้ารุก‘ซีแอลเอ็มวี’ ปูพรมCafe´ Amazonกัมพูชา

โดยปตท.ยังขยายกลุ่มธุรกิจนอนออยล์ ซึ่งหัวหอกหลักไม่พ้น Cafe´ Amazon ที่เริ่มเข้าไปเมื่อปี 2556 ปัจจุบันมีทั้งหมด 110 สาขา มียอดขายสะสม 15 ล้านแก้ว โดยยอดขายสูงสุดอยู่ที่บึงเก็งก็อง 63 ที่ 500 แก้ว/วัน จุดเด่นของ Cafe´ Amazon เป็นที่รู้จักด้านคุณภาพ ราคาจับต้องได้ มีการบริการอาหารรสชาติถูกปาก มีไวไฟอำนวยความสะดวก เน้นกลุ่มลูกค้าพนักงาน นักเรียน นักศึกษา คนที่เดินทางไกลและกลุ่มผู้มีรายได้ปานกลาง ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนส่วนใหญ่ของกัมพูชา

ทั้งนี้ร้านกาแฟ Cafe´ Amazon มีทั้งรูปแบบบริการในสถานีน้ำมันปตท. และที่เป็น Stand Alone ตกแต่งสวยงามเป็นธรรมชาติ ทำให้มีแผนขยายเพิ่มจาก 150 แห่งเป็น 190 แห่ง เน้นเปิดที่เมืองหลวงและเมืองท่องเที่ยวหลัก เช่น พนมเปญ เสียมราฐ พระสีหนุ ฯลฯ

จากการที่ Cafe´ Amazon ขยายสาขาเพิ่มขึ้น ทำให้ธุรกิจในกัมพูชาเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นเพราะพนักงานส่วนใหญ่จะเป็นคนกัมพูชา

ที่สำคัญ Cafe´ Amazon จัดสัมมนาสำหรับพนักงานเพื่อพัฒนาเพิ่มพูนทักษะและความรู้ รวมถึงโครงการกิจกรรมช่วยเหลือสังคม หรือซีเอสอาร์ ในด้านต่างๆ เช่น พาพนักงานไปร่วมปลูกป่า ให้ทุนการศึกษา สนับสนุนอุปกรณ์การเรียนตามโรงเรียนต่างๆ บริจาคเงินให้สภากาชาดกัมพูชา จัดสัมมนาให้ดีลเลอร์ เฟรนไชส์

จัดทำโครงการห้องน้ำ 20 บาท นำเงินไปบริจาคให้กับโรงเรียนต่างๆ คัดแยกขยะตามปั๊มนำไปจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือสังคมในด้านอื่นๆ

อย่างไรก็ตาม แนวทางดังกล่าวสอดรับกับนโยบายของ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ก่อนหน้านี้ที่ นำ PTTOR บริหารธุรกิจค้าปลีกและอาหาร เช่น Cafe´ Amazon ฮั่วเซ่งฮง เข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) และตั้งเป้าหมายจะปั้นแบรนด์ Cafe´ Amazon ให้เป็นโกลบอลแบรนด์ภายใน 5-10 ปี หรือคาดว่าจะมี 20,000 สาขา

คิดเป็น 1 ใน 3 ของจำนวนสาขาของโกลบอลแบรนด์อย่างสตาร์บัคส์

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน