‘สมคิด’ สั่งรัฐวิสาหกิจช่วยโชว์ผลงานรัฐบาล โต้ 4 ปีไม่ทำอะไรเลย ชี้รัฐบาลใหม่ เข้ามาไม่ต้องคิดนโยบาย แค่สานต่อผลงานเก่าก็พอ

นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยในการเป็นประธานงานตามความคืบหน้าการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจ (รสก.) ในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของชาติ ว่า ได้หารือกับ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รมว.คลัง ว่า ถึงเวลาที่ต้องออกมาพูดเรื่องผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมา โดยการทำงานของรัฐวิสาหกิจที่เป็นคนทำจริงๆ ว่า ในช่วง 4 ปี ได้มีการมาตรการต่างๆ ออกมาจำนวนมาก

ทั้งนี้ เศรษฐกิจไทยจะเดินหน้าไปได้ ต้องพึ่งทั้งนโยบายการเงินของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และนโยบายการคลัง ที่กระทรวงการคลังทำผ่านรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมีการดำเนินมาตรการจำนวนมาก เพราะเป็นองค์กรที่มีความคล่องตัว ทำงานได้เร็ว มีผู้บริหารรุ่นใหม่ที่เป็นอนาคตของประเทศ แต่ที่ผ่านมากลับมาแต่ข่าวว่ารัฐวิสาหกิจไม่มีผลงานออกมา

“เข้ามา 4 ปี บอกว่า รัฐบาลนี้ไม่ทำอะไรเลย ทั้งที่ทำมามากมาย ขอให้คลังส่งผลงานของรัฐวิสาหกิจทั้งหมด ให้พรรคการเมืองได้รู้ จะได้ไม่ต้องเสียเวลาคิดมาตรการมาหาเสียง เพราะมาตรการที่หาเสียงมานั้น รัฐบาลนี้ทำหมดแล้ว ไม่ต้องคิดนโยบายใหม่ๆ แล้ว แค่เข้ามาสานต่อมาตรการของเก่าที่รัฐบาลนี้ทำก็พอแล้ว ทั้งนี้ ได้บอกผู้บริหารรัฐวิสาหกิจอย่ายึดติดกับตัวบุคคล ถึงผมกับ รมว.คลัง ไม่อยู่ ก็ให้ดำเนินการมาตรการทำต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ประเทศเสียโอกาส ไม่ใช่เอาแต่แขวะกันว่า 4 ปีนี้ รัฐบาลทำให้เศรษฐกิจเสียหาย ต้องเร่งเข้ามาฟื้นฟู ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลนี้ต้องเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจที่รัฐบาลก่อนๆ ทำเสียหายไว้” นายสมคิด กล่าว

นายสมคิด กล่าวว่า ผลงานของรัฐวิสาหกิจในช่วง 4 ปี ที่ผ่านมาได้มีการปฏิรูปเศรษฐกิจครั้งใหญ่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) หนุนให้เกษตรกรทำเกษตรแปลงใหญ่มากขึ้น ธนาคารออมสิน เน้นการปล่อยกู้เพื่อผู้มีรายได้ และผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทำมีโอกาสมีอาชีพ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศ (ธ.พ.ว.) มีการปล่อยกู้เอสเอ็มอีรายเล็กให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน และธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ทำมาตรการบ้านล้านหลัง ซึ่งได้รับความสนใจผู้มีรายได้น้อยจำนวนมาก และไม่มีรัฐบาลไหนคิดจะทำมาก่อน

ขณะที่การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) และการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ที่ผ่านมาถูกมองเป็นองค์กรที่ไม่มีอนาคต รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ให้ความสำคัญ เทงบประมาณไปที่กรมทางหลวงเพื่อสร้างถนน เพราะนักการเมืองส่วนใหญ่เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง แต่รัฐบาลปัจจุบันได้ให้ความสำคัญกับเรื่องคมนาคมระบบราง ก่อนรัฐบาลนี้ รฟม. มีการดำเนินระบบราง 4 เส้นทาง แต่รัฐบาลนี้มีการดำเนินการเพิ่มถึง 8 เส้นทาง

ด้านคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ในการทำงาน 4 ปี ที่ผ่านมา ถือเป็นหางเสือในการปฏิรูปเศรษฐกิจไปสู่การลงทุนที่มีนวัตกรรมและการวิจัยมากขึ้น ใน 4 ปี ที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการขอยื่นส่งเสริมการลงทุน 5,518 ราย เป็นมูลค่า 2.28 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมาย 10 อุตสาหกรรม ถึง 65% จากรัฐบาลก่อนๆ หน้ามีสัดส่วน52%

ด้านนายอภิศักดิ์ กล่าวว่า ได้หารือกับรองนายกสมคิด ว่า ที่ผ่านมา ได้รับฟังการหาเสียงจากพรรคการเมืองมาจำนวนมาก และโดนกล่าวหาว่ารัฐบาลนี้ไม่ได้ทำอะไรเลย ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะรัฐบาลนี้ทำงานจำนวนมาก และเรื่องที่พรรคการเมืองต่างๆ หาเสียงรัฐบาลนี้ก็ดำเนินการแล้ว โดยสถาบันการเงินเฉพาะกิจทุกแห่ง ได้มีมาตรการจำนวนมากช่วยเหลือผู้มีรายได้ให้มีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้น

ทั้งนี้การดำเนินมาตรการของรัฐบาล จะเน้น 3 ด้านที่สำคัญได้แก่ 1 โครงการต้องสร้างขีดความสามารถการแข่งขัน 2 ลดความเหลื่อมล้ำ และ 3 อยู่ในวินัยการเงินการคลัง ซึ่งการดำเนินการมาตรการต่างๆ ทั้งสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) จะต้องดูว่าการดำเนินมาตรการต่างๆ ต้องมีผลตอบแทนทางเศรษฐกิจ ลดความเหลื่อมล้ำ และไม่สร้างภาระการคลังเกินกฎหมายกำหนด ไม่ได้เป็นโครงการที่ทำขึ้นเพื่อแจกเงินเฉยๆ โดยที่ไม่ได้ผลทางเศรษฐกิจอย่างที่มีคนกล่าวหา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน