ทอท.เปิดชี้แจง ประมูลดิวตี้ฟรี-เชิงพาณิชย์ สุวรรณภูมิ ด้านเซ็นทรัล ข้องใจเรี่องพื้นที่ไม่ชัดเจน
นายวิชัย บุญยู้ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน)(ทอท.) เผยว่า วันนี้(22เม.ย.) ทอท.ได้จัดให้มีการประชุมชี้แจงทำความเข้าใจในรายละเอียดร่างเงื่อนไขเชิญชวนเอกชนเข้ามาประมูลเข้ามาบริหารร้านค้าปลอดอากร(ดิวตี้ฟรี) และพื้นที่เชิงพาณิชย์ให้กับกลุ่มบริษัทเอกชน โดยเปิดให้เอกชนซักถามในประเด็นที่สนใจและสงสัยถึงการการเข้ามาดำเนินการในกลุ่มงานต่างๆ เพื่อให้เกิดความชัดเจนมากขึ้น
ส่วนประเด็นที่หลายคนสงสัยว่าทำไมจะต้องให้เอกชนที่มายื่นซองต้องแจ้งรายละเอียดกับ ทอท. ก่อนว่าใครจับกลุ่ม ร่วมทุนกับใคร นั้นในวันที่ 8 พ.ค.นั้น ในเรื่องนี้มองว่าจะเป็นประโยชน์กับเอกชนที่มายื่น เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้พิจารณาก่อนว่า เอกชนที่จับกลุ่มกันถูกต้องหรือไม่ หากพิจารณาแล้วมีรายละเอียดที่ต้องแก้ไข ทางเอกชนก็สามารถกลับไปดำเนินการให้ถูกต้องตามเงื่อนไขทีโออาร์ได้ เพื่อให้เอกชนผ่านคุณสมบัติทางเทคนิค
แต่หากไม่ให้เอกชนแจ้งรายละเอียดกับ ทอท.ก่อน หากมายื่นเงื่อนไขในช่วงที่กำหนด และมีข้อผิดพลาดอาจจะถูกตกเงื่อนไขทางเทคนิคเลย
รายงานว่าจากทอท.แจ้งว่า ระหว่างเวลา 9.00-12.00 น. วันที่ 22 เม.ย.บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ได้เปิดชี้แจงรายละเอียดแก่ผู้ซื้อเอกสารการประมูล (TOR) กิจการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (Duty Free) ในสนามบินสุวรรณภูมิจำนวน 5 ราย
ประกอบด้วย บริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด, บริษัท คิงพาวเวอร์ ดิวตี้ฟรี จำกัด, บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MINT, บริษัท การบินกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BA และบริษัท โรงแรมรอยัลออคิด เชอร์ราตัล (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ROH
ตัวแทนจากบริษัท สรรพสินค้าเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า ผู้ซื้อทีโออาร์ทั้ง 5 รายได้เข้ามารับฟังการชี้แจงทั้งหมด โดยเอกชนสอบถามประเด็นกันหลากหลาย แต่ก็ไม่ใช่ประเด็นใหญ่ที่น่างกังวล
ส่วนกลุ่มเซ็นทรัลได้สอบถามเรื่องของพื้นที่ในการประมูล เนื่องจาก ทอท. ได้เปิดประมูลดิวตี้ฟรีในอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 1 (Terminal 1) และอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 (SAT-1) ในสนามบินสุวรณภูมิ ซึ่งเฉพาะอาคารเทียบเครื่องบินรองหลังที่ 1 มีพื้นที่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร แต่ขนาดของพื้นที่ในภาพรวมยังเป็นแบบประมาณการณ์ ไม่มีรายละเอียดที่ชัดเจน แต่เอกชนต้องการทราบแผนผังและรายละเอียดการลงทุนที่ชัดเจนของแต่ละจุด
แหล่งข่าวกล่าวว่า ในการประมูลครั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลจะเป็นบริษัทนำ (Lead Firm) และจับมือกับพันธมิตรต่างชาติเข้าร่วมประมูล โดยปัจจุบันกลุ่มเซ็นทรัลเริ่มเจรจากับผู้ผลิตสินค้าแบรนด์เนมในระดับหนึ่งแล้ว แต่ยอมรับว่า ผู้รับสัมปทานรายปัจจุบัน คงได้เปรียบด้านราคาเมื่อเทียบกับเอกชนรายอื่น เพราะมีการลงทุนอยู่แล้ว โดยข้อเสนอด้านราคาคิดเป็นสัดส่วน 20% ของคะแนนถ่วงน้ำหนัก ส่วนอีก 80% เป็นข้อเสนอด้านคุณสมบัติ เทคนิค และอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม ถ้ากลุ่มเซ็นทรัลเป็นผู้ชนะการประมูล ก็มั่นใจว่าจะสามารถลงทุนก่อสร้างและเปิดให้บริการได้ภายใน 6 เดือน เพราะการประมูลครั้งนี้จะสิ้นสุดประมาณปลายเดือนพฤษภาคม จากนั้นก็มีช่องว่างให้ผู้ชนะการประมูลเตรียมตัวอีกระยะหนึ่ง ก่อนเริ่มเข้าพื้นที่และลงทุนจริง
นอกจากนี้ เซ็นทรัลได้เข้าซื้อทีโออาร์การประมูลดิวตี้ฟรีสนามบินภูมิภาคอีก 3 แห่ง จำนวน 1 สัญญา ประกอบด้วยสนามบินภูเก็ต, สนามบินเชียงใหม่ และสนามบินหาดใหญ่ โดยเบื้องต้นมองว่า สนามบินภูเก็ตมีศักยภาพสูงสุด ด้านสนามบินอีก 2 แห่งสร้างรายได้ไม่มากนัก โดยเบื้องต้นยังตอบไม่ได้ว่าจะยื่นซองประมูลดิวตี้ฟรีสนามบินภูมิภาคด้วยหรือไม่ แต่ล่าสุดทางผู้บริหารก็ยังไมได้ส่งสัญญาณให้ถอยแต่อย่างใด
