นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมฯ เล็งเห็นถึงโอกาสในการส่งเสริมศักยภาพด้านการตลาดให้กับสินค้าไทยไปสู่กลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศกัมพูชาที่ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความนิยมในสินค้าที่ผลิตจากประเทศไทยเป็นอย่างมาก กรมฯ จึงร่วมกับ จ.พระตะบอง จ.ไพลิน หอการค้าจ.พระตะบอง และหอการค้าจ.ไพลิน จัดงานแสดงสินค้าไทย “Thailand Festival @ Battambang” ขึ้น เมื่อวันที่ 23-27 ก.ย.ที่ผ่านมา ณ ตลาดปุปุย จ.พระตะบอง โดยมีผู้ประกอบการและผู้จำหน่ายสินค้าไทยจากทั่วประเทศเข้าร่วมงานมากถึง 150 บูธ

งาน Thailand Festival @ Battambang กรมฯ เชิญนักธุรกิจจากหอการค้า ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาเข้าร่วมประชุม และลงนามความร่วมมือทางการค้า (MOU) และการจับคู่ธุรกิจ (Matching) ร่วมกัน ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมาไทยและกัมพูชามีมูลค่าการค้าระหว่างกันประมาณ 1 แสน 9 หมื่นล้านบาท ซึ่ง 70% เป็นการค้าชายแดน

“ที่ผ่านมาเวลาพูดถึงการค้าชายแดนกับกัมพูชา เรามักจะเน้นไปที่ด่านจ.สระแก้วเป็นหลัก คือด่านอรัญประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงกับด่านปอยเปตของกัมพูชา แต่หลังจากที่กรมฯ ลงสำรวจพื้นที่ก็พบว่า ด่านทางด้านจ.จันทบุรีนั้นมีความน่าสนใจมาก ซึ่งจันทบุรีมีด่านที่เชื่อมโยงกับกัมพูชาถึง 2 ด่าน คือ ด่านบ้านแหลม ที่เชื่อมตรงมาที่จ.พระตะบอง และด่านบ้านผักกาด ซึ่งเชื่อมตรงไปที่จ.ไพลิน และเมื่อพิจารณาถึงตัวเลขการค้าชายแดนของจ.จันทบุรี ก็พบว่ามูลค่าการค้าชายแดนของทั้งสองด่านนั้น รวมกันมีมูลค่าประมาณ 4% ของมูลค่าการค้าชายแดนไทย-กัมพูชา”

รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ยังเปิดเผยอีกว่า ในช่วงปี 2558 นั้น มูลค่าการค้าชายแดนของจันทบุรีมายังประเทศกัมพูชา มีการเติบโตถึง 7.4% และในปี 2559 นี้ เพียงช่วง 7 เดือนแรกของปี 2559 (ม.ค.-ก.ค.) ทั้งสองด่านที่จันทบุรีก็มีมูลค่าการค้าชายแดนรวมกันมากกว่า 8,000 ล้านบาท

ทั้งนี้ มูลค่าการค้าระหว่างไทยและกัมพูชาโดยรวมนั้น ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2559 (ม.ค.-มี.ค.) พบว่ามีมูลค่าการค้ารวม 36,323.18 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.12% เทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 ที่มีมูลค่า 34,887.33 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออก มูลค่า 28,103.51 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 4.38%) และการนำเข้ามูลค่า 8,219.67 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 3.23%) ซึ่งประเทศไทยได้ดุลการค้าถึง 19,883.84 ล้านบาท โดยสินค้าส่งออกที่สำคัญจากไทยไปกัมพูชา ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ เครื่องยนต์สันดาปภายในแบบลูกสูบฯ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ รถยนต์อุปกรณ์และส่วนประกอบ ยานพาหนะอื่นๆ และส่วนประกอบ โดยเฉพาะสินค้าประเภทเครื่องดื่ม พลาสติกและของทำด้วยพลาสติก น้ำตาล และขนมทำจากน้ำตาลของไทยนั้น เป็นที่ต้องการและได้รับความนิยมมากจากชาวกัมพูชา เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับสินค้าไทย และเมื่อเทียบกับสินค้าจากประเทศจีนและประเทศเวียดนามแล้ว สินค้าของไทยถือว่ามีคุณภาพ มีราคาสมเหตุสมผล และมีอายุการใช้งานมากกว่า

“จากการพูดคุยกับตัวแทนจากฝ่ายภาครัฐและเอกชนของทั้ง จ.ไพลิน และพระตะบอง พบว่าชาวกัมพูชามีความชื่นชอบในสินค้าไทย จ.พระตะบองนั้นถือเป็นอู่ข้าวอู่น้ำของกัมพูชา มีการทำเกษตรมากมายไม่ว่าจะเป็นข้าว มันสำปะหลัง งา พริกไทย แสดงให้เห็นถึงความอุดมสมบูรณ์ และเศรษฐกิจที่ดี ทำให้มีกำลังซื้อสินค้าไทย นอกจากนี้ ในฝั่งกัมพูชาเองยังไม่มีอุตสาหกรรมเกิดขึ้น ทำให้สินค้าประเภทเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ จึงต้องนำเข้าจากฝั่งไทยและเป็นที่นิยมมาก สินค้าแบรนด์ไทยสำหรับชาวกัมพูชานั้นถือว่าภาพลักษณ์ดีมาก”

ด้าน นายรัฐวิทย์ ตั้งเกียรติพชร นายกสมาคมการค้าและการท่องเที่ยวชายแดนไทย-กัมพูชา กล่าวถึงการจัดงานครั้งนี้ว่า นับเป็นการเปิดประวัติศาสตร์การค้าของไทย-กัมพูชาขึ้นอีกครั้ง เนื่องจาก พระตะบอง เป็นจังหวัดที่ได้ชื่อว่าเป็น “ชามข้าวแห่งกัมพูชา” คือเป็นจังหวัดใหญ่ลำดับที่ 5 ของกัมพูชา และมีจำนวนประชากรมากเป็นลำดับที่ 4 ของประเทศ พระตะบองมีประชากรประมาณ 1.2 ล้านคน ในด้านเศรษฐกิจของพระตะบองก็กำลังพัฒนาและเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการค้าชายแดนกับประเทศไทยเป็นมูลค่าสูงเพิ่มขึ้นทุกปี และคนกัมพูชาก็ให้ความสนใจนิยมชมชอบสินค้าไทยมาโดยตลอด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน