ส.อ.ท. เผยยอดขายรถในประเทศลดลงเป็นเดือนแรกในรอบ 30 เดือน หลังแบงก์ชาติเข้มงวดสถาบันการเงินปล่อยสินเชื่อ ส่วนส่งออกก็วูบเจอผลพิษสงครามการค้า
ยอดขายรถในประเทศวูบ – นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธานและโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า ยอดผลิตรถยนต์เดือนมิ.ย. 2562 ผลิตได้ 172,878 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 8.52% ซึ่งเป็นการลดลงจากทั้งยอดผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศที่ลดลง 5.09% อยู่ที่ 88,652 คัน สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ภายในประเทศที่ลดลง 2.1% อยู่ที่ 86,048 คัน เป็นการลดลงเดือนแรกในรอบ 30 เดือน
ทั้งนี้ เนื่องจากการเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อของสถาบันการเงิน และจากฐานที่สูงมากของปีที่แล้ว เห็นได้ชัดจากยอดผลิตรถยนต์นั่งลดลง 7.7% อยู่ที่ 42,660 คัน และยอดผลิตรถกระบะเพื่อจำหน่ายในประเทศลดลง 2.33% อยู่ที่ 43,068 คัน
นอกจากนี้ ยอดผลิตเพื่อส่งออกผลิตได้ 84,226 คัน ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 11.86% จากการผลิตรถยนต์นั่งเพื่อส่งออกลดลง 10.57% อยู่ที่ 27,921 คัน และรถกระบะเพื่อส่งออกลดลง 12.49% อยู่ที่ 56,305 คัน ขณะที่ยอดส่งออกได้ 97,575 คัน เพิ่มขึ้น 2.4% โดยส่งออกเพิ่มขึ้นในตลาดเอเชีย และตลาดยุโรป มีมูลค่าการส่งออก 51,353.58 ล้านบาท
“แม้ยอดขายในประเทศ จะปรับลดลงจากมาตรการคุมเข้มสินเชื่อของแบงก์ชาติ และการส่งออกได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างจีน-สหรัฐ แต่ตัวเลขยอดการผลิตรถยนต์ปีนี้ทั้งปี ส.อ.ท. ยังตั้งเป้าหมายไว้ที่ 2.15 ล้านคันเหมือนเดิม แบ่งเป็นยอดการผลิตเพื่อการส่งออก 1.1 ล้านคัน และการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 1.05 ล้านคัน ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการคาดหวังนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาล โดยเฉพาะการดูแลราคาสินค้าเกษรให้ปรับสูงขึ้น”
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 6 เดือน (ม.ค.-มิ.ย. 2562) ยอดผลิตรถยนต์เพื่อจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 508,451 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 4.97% ยอดผลิตเพื่อส่งออกอยู่ที่ 557,494 คัน ลดลง 2.57% ส่งผลให้ภาพรวมรถยนต์ที่ผลิตได้ 6 เดือนแรกของปีนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 1,065,945 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.89%
