นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ภายในเดือนส.ค.นี้ จะเสนอที่ประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) และที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณายกเว้นการตรวจลงตรา (วีซ่า) สำหรับนักท่องเที่ยวชาวจีนและอินเดีย ที่เดินทางมาประเทศไทย โดยได้หารือเบื้องต้นกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี แล้วทั้ง 2 ท่านไม่ขัดข้อง

ทั้งนี้ กำหนดให้พำนักในไทยได้ 15 วัน กำหนดให้มีผลวันที่ 1 พ.ย. 2562-31 ต.ค. 2563 หรือเป็นระยะเวลา 1 ปี ส่วนอีก 19 ประเทศจะเสนอให้ต่ออายุมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่าหน้าด่านตรวจคนเข้าเมือง (VOA) 2,000 บาท ที่จะสิ้นสุด 31 ต.ค. 2562 ต่อเนื่องไปอีก 1 ปี หรือจนถึง 31 ต.ค. 2563 เชื่อว่ามาตรการทั้ง 2 อย่าง จะรักษาตลาดนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี 2562 ไว้ได้ 11 ล้านคน ไม่เช่นนั้นอาจจะติดลบได้เพราะค่าเงินหยวนอ่อนค่าจากเงินบาทไปร่วม 10-20% และจะทำให้มีนักท่องเที่ยวอินเดีย 2 ล้านคนในปี 2562 และกระโดดเป็น 3 ล้านคนในปี 2563

“6 เดือนที่ผ่านมา รัฐสูญเสียรายได้ประมาณ 10,000 ล้าน มีรายได้จากการท่องเที่ยวประมาณ 2 แสนล้าน ดังนั่นในรอบนี้ดำเนิน จะสูญเสียรายได้ ประมาณ 30,000 ล้านบาท แต่จะมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการท่องเที่ยว 3-4 แสนล้านบาท และสามารถดันเป้าหมายนักท่องเที่ยวจีนเพิ่มได้ตามเป้าหมายเติบโต 7-8% หรือประมาณ 11.2 ล้านคน นักท่องเที่ยวอินเดียเพิ่มเป็น 2 ล้านคน จากยอด 1.6 ล้านคนในปี 2561”

น.ส.ศุภวรรณ ถนอมเกียรติภูมิ นายกสมาคมโรงแรมไทย (ทีเอชเอ) กล่าวเสริมว่า หลังจากตัวแทนภาคเอกชนท่องเที่ยวได้เข้าหารือกับ นายพิพัฒน์ รมว.กระทรวงการท่องเที่ยวฯ เมื่อต้นเดือนส.ค. ที่ผ่านมา ทางนายพิพัฒน์มีแนวคิดอยากให้มีการ “ยกเว้นวีซ่า” แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ โมเดลเดียวกับที่ประเทศญี่ปุ่นยกเว้นวีซ่าให้คนไทย จนส่งผลให้คนไทยแห่ไปเที่ยวญี่ปุ่นจำนวนมาก ซึ่งจะต่างจากกรณี “การยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า” ที่นักท่องเที่ยวต่างชาติยังต้องขอวีซ่าเข้าไทยอยู่ เพียงแต่ไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียม โดยอยากให้มาตรการยกเว้นวีซ่าเป็นมาตรการใหม่ที่เข้ามาแทนมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมวีซ่า ณ ด่านตรวจคนเข้าเมือง (Visa on Arrival : VoA) แก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ 21 ประเทศ ซึ่งกำลังจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ต.ค.นี้

หากมีการเสนอมาตรการยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวต่างชาติ และได้รับการเห็นชอบจาก ครม. ส่วนตัวมองว่าไม่อยากให้กำหนดระยะเวลาว่าจะใช้มาตรการนี้นานกี่เดือน กี่ปี หรือจะสิ้นสุดเมื่อไร แต่อยากให้ใช้ไปเรื่อยๆ เหมือนประเทศญี่ปุ่นที่ยังคงดำเนินนโยบายยกเว้นวีซ่าแก่คนไทยอย่างต่อเนื่องนานกว่า 6 ปีแล้ว นับตั้งแต่กลางปี 2556 ที่ผ่านมา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน