พาณิชย์ยิ้มได้ส่งออกเดือนก.ค. บวกครั้งแรกในรอบ 5 เดือน แต่ 7 เดือนแรกยังติดลบ 1.91% คิดเป็นมูลค่า 144,175 ล้านดอลลาร์ คาดหวังช่วงที่เหลือจะมีทิศทางดีขึ้นดันทั้งปีเข้าเป้า 3%

พาณิชย์โล่งส่งออกก.ค.บวก – น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า การส่งออกเดือนก.ค. 2562 ขยายตัวเพิ่มขึ้น 4.28% คิดเป็นมูลค่า 21,205 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เป็นการขยายตัวครั้งแรกในรอบ 5 เดือน ขณะที่การนำเข้าขยายตัว 1.67% คิดเป็นมูลค่า 21,094 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้ดุลการค้าเกินดุล 110.4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า การส่งออกเดือนก.ค. ที่กลับมาขยายตัวเป็นบวก เนื่องจากสถานการณ์สงครามการค้ายังทรงตัวและไม่ได้แย่ลง และเริ่มมีแนวโน้มที่จะหาทางออกได้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังมีสินค้าใหม่ขยายตัวดีขึ้น ทั้งอาหารแปรรูป เครื่องดื่มและผลิตภัณฑ์บำรุงผิว โดยสินค้าดาวรุ่งที่ขยายตัวได้ดี คือ สินค้าผลไม้ โดยมีการส่งออกไปตลาดจีนขยายตัวเพิ่มขึ้น 117% ส่งผลดีกับสินค้าเกษตรของไทย รวมถึงเอสเอ็มอี ที่สามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้เป็นที่ต้องการมากขึ้น ขณะที่สถานการณ์ค่าเงินบาทขณะนี้เห็นว่ายังทรงตัว การลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ทำให้ค่าเงินบาทของไทยเริ่มอ่อนค่าลงมาบ้าง

“แนวโน้มการส่งออกไทยในช่วงที่เหลือของปีคาดว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการส่งออกสินค้าศักยภาพใหม่ที่หลากหลาย ทั้ง สินค้าเกษตร/อาหาร สินค้าไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว เมื่อรวมกับแผนผลักดันการส่งออกโดยคณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนกระทรวงพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) และมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐในหลายประเทศ น่าจะส่งผลบวกต่อเศรษฐกิจและการค้าโดยรวม และอาจทำให้การส่งออกในช่วงไตรมาสสุดท้ายมีโอกาสกลับมาขยายตัวได้ สำหรับสินค้าอุตสาหกรรมสำคัญที่ขยายตัวและน่าจับตามอง ได้แก่ รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เครื่องส่งวิทยุ โทรศัพท์ และโทรทัศน์ และนาฬิกาและส่วนประกอบ ที่เริ่มเห็นทิศทางการขยายตัวต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปีที่ผ่านมา” น.ส.พิมพ์ชนก กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากดูตัวเลขการส่งออกในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ยังคงติดลบ 1.91% คิดเป็นมูลค่า 144,175 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การนำเข้าขยายตัวติดลบ 1.81% คิดเป็นมูลค่า 140,122 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดุลการค้าเกินดุล 4,053 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้น หากต้องการให้การส่งออกปีนี้ไม่ติดลบหลังจากนี้จะต้องให้ได้เดือนละ 21,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และหากจะทำให้การส่งออกขยายตัวได้ตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ 3% แต่ละเดือนที่เหลือจะต้องส่งออกให้ได้เดือนละ 23,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยช่วงเวลาที่เหลือปีนี้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะร่วมมือกันเร่งผลักดันการส่งออกกันอย่างเต็มที่ แต่ต้องติดตามปัญหาผลกระทบหลายๆ ประเทศเช่นกันว่าจะมีอะไรรุนแรงหรือไม่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน