น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์โรงกลั่นน้ำมันของซาอุดิอาระเบียถูกโจมตีอย่างรุนแรงด้วยโดรน จนเป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้ เกิดความเสียหายอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันและก๊าซลดลงครึ่งหนึ่งของปริมาณการผลิต หรือประมาณ 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน หรือ 5.0% ของอุปทานน้ำมันทั่วโลก ซึ่งช่วงเช้าของวันที่ 16 ก.ย. 2562 ราคาน้ำมัน Brent Oil ปรับเพิ่มสูงขึ้น 10 เหรียญสหรัฐมีมูลค่า 72 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล

ทั้งนี้ จากเหตุการณ์ดังกล่าว คาดการณ์ได้ 2 กรณี คือ กรณีที่ 1 สถานการณ์ไม่ยืดเยื้อ โดย 1. ซาอุดิอาระเบียสามารถแก้ไขสถานการณ์เป็นปกติและกลับมาผลิตในระดับเดิมได้อย่างรวดเร็ว 2. ไม่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้อีกครั้งทั้งในประเทศซาอุดิอาระเบียหรือประเทศผู้ผลิตน้ำมันสำคัญรายอื่นๆ 3. สถานการณ์ความขัดแย้งไม่ขยายวงอันนำมาสู่ผลกระทบต่อการผลิตน้ำมันในกลุ่มประเทศตะวันออกกลาง และ 4. ประเทศผู้ส่งออกน้ำมันรายอื่นๆ สามารถส่งออกน้ำมันชดเชยการลดลงของซาอุดิอาระเบียได้ ภายใต้ข้อสมมติฐานนี้คาดว่าราคาน้ำมันในเดือนก.ย. จะปรับสูงขึ้นเป็น 65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ก่อนที่จะลดลงเข้าสู่ปกติในช่วงที่เหลือของปีในระดับ 62.5 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ส่งผลให้ราคาน้ำมันในช่วงที่เหลือของปี (ก.ย.-ธ.ค. 2562) เฉลี่ยอยู่ที่ 63.1 เหรียญต่อบาร์เรล แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 69.4 เหรียญสหรัฐ

กรณีที่ 2 สถานการณ์ยืดเยื้อ ทำให้ราคาน้ำมันในช่วงที่เหลืออยู่ที่ 65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล เนื่องจากอาจจะได้รับผลกระทบจากปัจจัยที่คาดไม่ถึงส่งผลให้ราคาน้ำมันทรงตัวระดับสูงต่อเนื่อง ในกรณีนี้จะทำให้น้ำมันในช่วงที่เหลือของปี (ก.ย.-ธ.ค. 2562) เฉลี่ยอยู่ที่ 65 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล แต่ยังคงต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 69.4 เหรียญสหรัฐ

น.ส.พิมพ์ชนก คาดว่ามีความเป็นไปได้สูงที่สถานการณ์จะไม่ยืดเยื้อ หรือกรณีที่ 1 ซึ่งจะส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าคาดการณ์เดิมเพียงเล็กน้อยประมาณ 0.01% และทั้งปียังอยู่ที่ประมาณ 0.7-1.3% อย่างไรก็ตาม พบว่าผลของน้ำมันไม่ว่ากรณีที่ 1 หรือ 2 จะส่งผลต่อเงินเฟ้อน้อยกว่าเมื่อเทียบกับผลของค่าเงิน โดยสนค. คาดว่าการแข็งค่าของเงินบาทในช่วงที่เหลือของปี จะทำให้เงินเฟ้อลดลง 0.17% และทำให้เงินเฟ้อทั้งปีต่ำกว่า 1.0%

สำหรับการส่งออกจะปรับตัวดีกว่าคาดการณ์เดิมประมาณ 0.1% ทั้งนี้ สนค. ยังคงเป้าหมายการส่งออกในครึ่งปีหลังที่ 3.0% ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน