นางชฎากร ธนสุวรรณเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอวีจี ไทยแลนด์ จำกัด ผู้เชี่ยวชาญด้านดิจิตอลมาร์เก็ตติ้งในประเทศจีนในเครือ บริษัท วายดีเอ็ม ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบันการทำตลาดดิจิตอล หรือออนไลน์ในจีนเริ่มยากขึ้น จากภาวะค่าเงินบาทที่แข็งค่า และค่าเงินหยวนที่อ่อนตัว ที่เกิดจากปัญหาสงครามการค้าจีน-สหรัฐ ที่ยังยืดเยื้ออยู่ ประกอบกับการออกกฎหมายใหม่ๆของประเทศจีน แต่ไม่เป็นอุปสรรคสำหรับผู้ประกอบการและสินค้าไทยที่อยากจะเข้าไปสร้างแบรนด์และทำตลาดในจีน เพราะคนจีนยังรักและเชื่อถือในคุณภาพของสินค้าไทยอยู่เป็นจำนวนมาก

ในปี 2563 นี้มูลค่าตลาดการซื้อขายสินค้าออนไลน์ในจีนมีถึง 8 แสนล้านเหรียญสหรัฐ แซงตลาดในสหรัฐอเมริกาแล้ว โดยสินค้าไทยที่ได้รับความนิยมในประเทศจีน ล่าสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1 .สินค้าที่ทำมาจากยางพารา อาทิ หมอนยางพารา เป็นต้น 2. กลุ่มขนมขบเคี้ยว ส่วนใหญ่เป็นผลไม้แปรรูป เช่น มะม่วงอบแห้ง, ทุเรียนทอดกรอบ และ ตามมาด้วยประเภทขนมอบกรอบ 3. ผลิตภัณฑ์สกินแคร์ 4. เครื่องสำอาง และ 5. ผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสุขภาพ เช่น ยาหม่อง แผ่นปิดบรรเทาการปวด กอเอี๊ยะ เป็นต้น ในขณะที่เทรนด์สินค้าไทยที่กำลังได้รับความนิยมที่เห็นได้ชัด คือ สินค้าที่เน้นเรื่องธรรมชาติ, ผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับสุขภาพ และสินค้าไทยที่มีภาพลักษณ์และคุณภาพระดับสากล (อินเตอร์เนชั่นแนล)

“บริษัทแนะนำเทคนิคการทำการตลาดออนไลน์ที่จีน ต้องพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ 1. ต้องวางแบรนด์ให้ชัดเจน และวางตำแหน่งสินค้าให้เหมาะสม เพราะจะได้วางงบการทำแบรนด์ที่เหมาะสมต่อไป 2. ดูวัตถุประสงค์ที่ต้องการ เช่น ต้องการหาตัวแทนจำหน่าย (ดิสทริบิวเตอร์) หรือหาลูกค้าที่ซื้อ และควรดูคู่แข่ง ดูผู้นำในตลาดว่าเค้าทำอะไรไปบ้าง ทำการตลาดไปถึงไหนแล้ว และสุดท้าย คือ ต้องรู้กลุ่มเป้าหมาย เนื่องจากในประเทศจีนมีจำนวนประชากร 1,400 ล้านคน ถ้าเราเลือกเฉพาะกลุ่มเกินไป ค่าใช้จ่ายต่อหัวอาจจะสูง เพราะต้องทำตลาดเจาะไปที่กลุ่มๆนั้น แต่ถ้าทำตลาดกว้างไป อาจจะไม่มีประสิทธิภาพพอที่จะเจาะตลาดในกลุ่มที่เราต้องการได้ ฉะนั้นจึงต้องพิจารณาให้ดีเพราะส่งผลต่องบประมาณที่ตั้งไว้

อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทได้เพิ่มช่องทางทำการตลาดในจีน ผ่านกลุ่มคนจีนที่อยู่ในไทย เนื่องจากพบว่ามีคนจีนที่เข้ามาอยู่ในเมืองไทยมากถึง 3-4 แสนคน มีทั้งมาลงทุนธุรกิจในเมืองไทย ทำงาน เรียนหนังสือ และมาอยู่หลังเกษียณ ซึ่งกลุ่มคนจีนดังกล่าวนี้น่าสนใจสำหรับลูกค้าที่มีธุรกิจประเภท ร้านอาหาร โรงพยาบาล เพราะนอกจากจะเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีศักยภาพ ยังเป็นกระบอกเสียงช่วยโปรโมทสินค้าไปถึงคนจีนที่ประเทศจีนได้ดีอีกด้วย ขณะเดียวกันงบประมาณไม่สูงเมื่อเทียบกับสื่อออนไลน์ในจีนเนื่องจากการทำการตลาดในจีนค่อนข้างใช้งบประมาณสูง แต่กลุ่มนี้สามารถเป็นทั้งลูกค้าและกระบอกเสียงที่ถือว่าคุ้มค่าต่อการทำตลาดได้อย่างดี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน