ส่งออกเดือนต.ค. ยังติดลบหนัก 4.54% พิษสงครามการค้า คาดทั้งปีลบ 1.5-2% – หวังปีหน้าจะบวกได้ 1.5-2%
ส่งออกต.ค. ยังติดลบหนัก – น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อานวยการสานักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า ตัวเลขการส่งออกเดือนต.ค. 2562 ยังติดลบในอัตราชะลอตัวลงโดยมีมูลค่า 20,757 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 4.54% ขณะที่การนำเข้าอยู่ที่ 20,251 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 7.5% ส่งผลให้ยอดส่งออก 10 เดือนของปีนี้ ตั้งแต่เดือนม.ค. – ต.ค. 2562 มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 207,329 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบอยู่ที่ 2.35% ขณะที่ตัวเลขนำเข้า 10 เดือนมีมูลค่าทั้งสิ้น 199,441 ล้านเหรียญสหรัฐ ติดลบ 4.09% ทำให้ยอดดุลการค้าของไทยได้ดุลแยกเป็นในเดือนต.ค. อยู่ที่ 506 ล้านเหรียญสหรัฐ และดุลการค้า 10 เดือนอยู่ที่ 7,887 ล้านเหรียญสหรัฐ
สาเหตุที่ทำให้การส่งออกของไทยและทั่วโลกในเดือนต.ค. ลดลงมาจากความกังวลเกี่ยวกับสงครามการค้าสหรัฐกับจีน และยังอยู่ระหว่างเจรจาทั้ง 2 ฝ่ายเพื่อหาทางออกร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตาม ยังส่งผลให้หลายประเทศยังคงกังวลปัญหาจะกลับมามีปัญหาได้อีก ดังนั้นส่งผลให้ยอดส่งออกโดยรวมไม่ค่อยดีนัก แต่หากหักมูลค่ากลุ่มสินค้าทองคำและน้ำมันออก ไทยจะติดลบในเดือนต.ค. นี้ จะเหลือเพียง 1% เท่านั้น
นอกจากนี้ แม้ตัวเลขการส่งออกในเดือนต.ค. จะติดลบแต่เมื่อดูถึงมูลค่าการส่งออกเกินกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐ ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าพอใจที่มูลค่ายอดรวมยังสูงอยู่ ประกอบกับสินค้าหลายรายการของไทยมีอัตราขยายตัวที่ติดลบน้อยลง เช่น กลุ่มสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และส่วนประกอบที่สามารถขยายการส่งออกไปตลาดต่างประเทศมากขึ้น ดังนั้น คงจะต้องมาติดตามในช่วง 2 เดือนที่เหลือปีนี้ และคาดการณ์ว่าส่งออกในเดือนพ.ย. ยังคงติดลบ และในเดือนธ.ค. น่าจะกลับมาขยายตัวเป็นบวก ทำให้ยอดส่งออกไตรมาส 4 น่าจะขยายตัวเป็นบวก 0.1% และส่งผลให้ยอดส่งออกทั้งปีของไทยจะติดลบเพียง 1.5-2% หรือมีมูลค่าการค้าอยู่ที่ 250,000 ล้านเหรียญสหรัฐได้ แต่อัตราแลกเปลี่ยนจะต้องไม่แข็งค่าไปมากกว่าตอนนี้
กระทรวงพาณิชย์ ได้ประเมินภาพรวมตัวเลขการส่งออกในปีหน้า หลังจากผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ได้ออกไปทำตลาดต่างประเทศได้ต่อเนื่อง และผลจากปัญหาสงครามการค้าสหรัฐกับจีนน่าจะมีทางออกที่ดี น่าจะทำให้การส่งออกในปีหน้าทั่วโลกจะกลับมาดี ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์คาดว่ายอดส่งออกในปีหน้าจะเป็นบวกได้ 1.5-2% หรืออาจมากกว่านี้ แต่ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์อยู่ระหว่างประเมินภาพรวมและปัจจัยต่างๆ รอบด้านให้ชัดเจนก่อน โดยคาดว่าทางกระทรวงพาณิชย์จะประกาศเป้าหมายคาดการณ์ตัวเลขส่งออกปีหน้าได้ในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ แนวโน้มการส่งออกยังคงเผชิญความเสี่ยงสูงจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว และเริ่มขยายวงกว้างไปสู่เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญของไทยที่ขยายตัวต่ำสุดในรอบหลายปี นอกจากนี้ ปัจจัยเสี่ยงรายภูมิภาค/ประเทศ และด้านภูมิรัฐศาสตร์ ราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำและเงินบาทที่แข็งค่า ยังเป็นปัจจัยกดดันการค้าและการส่งออกไทย ในระยะสั้น-กลาง อย่างไรก็ดี การผ่อนคลายกฎเกณฑ์กำกับดูแลการแลกเปลี่ยนเงิน ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพื่อเอื้อให้เงินทุนไหลออกและสร้างสมดุลเงินทุนเคลื่อนย้าย จะช่วยลดแรงกดดันต่อค่าเงินบาทไปได้บ้าง โดยผู้ส่งออกอาจพิจารณาทำสัญญาซื้อขายระยะยาว เพื่อลดผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยนได้อีกทางหนึ่ง
ในระยะที่ผ่านมา การส่งออกไทยถือว่าได้รับผลกระทบน้อยกว่าหลายประเทศ สะท้อนพื้นฐานการส่งออกที่ดีและมีความยืดหยุ่นสามารถปรับตัวและกระจายการส่งออกในสินค้ากลุ่มใหม่ อาทิ เครื่องนุ่งห่ม รถจักรยานยนต์และส่วนประกอบ เฟอร์นิเจอร์และชิ้นส่วน และเครื่องใช้บนโต๊ะอาหาร เครื่องครัว และของใช้ในบ้าน ทั้งในตลาดเดิม และตลาดศักยภาพใหม่
