น.ส.มนัญญา ไทยเศรษฐ์ รมช.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังจากแถลงข่าวการจัดงาน ไทย-เดนมาร์ค มิ้ลค์สิค เฟสติวัล 2019 (Thai-Denmark Milksic Festival 2019) วัตถุประสงค์ของงานดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อ สืบสาน รักษา ต่อยอด “โคนมอาชีพพระราชทาน” ซึ่งเป็นอาชีพทรงคุณค่าที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระราชทานไว้ให้แก่เกษตรกรไทย ทรงเล็งเห็นว่าอาชีพการเลี้ยงโคนมจะช่วยให้ชาวไทยได้บริโภคอาหารที่มีคุณค่า ทั้งยังเป็นการสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรไทยได้มีอาชีพที่มั่นคงและยั่งยืน จึงมอบหมายให้องค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) จัดงานรณรงค์การบริโภคนมด้วยผลิตภัณฑ์นมไทย-เดนมาร์คภายใต้ชื่องาน “ไทย-เดนมาร์ค มิ้ลค์สิค เฟสติวัล 2019” (Thai-Denmark Milksic Festival 2019) ขึ้น โดยงานดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 15 ธ.ค. 2562 นี้ ณ บริเวณลานเนินนุ่ม ต.ดอนแก้ว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ และจะหมุนเวียนไปตามภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ ให้มุ่งเน้นชักชวนคนรุ่นใหม่ ให้หันมาดื่มนมกันเยอะๆ เพื่อส่งเสริมสุขภาพ

โดยมุ่งหวังว่างานดังกล่าวจะสามารถรณรงค์สร้างการรับรู้และสร้างค่านิยมให้คนไทยทุกเพศ ทุกวัยที่เป็นกลุ่มลูกค้าเดิมของนมไทย-เดนมาร์ค และเลือกซื้อนมไทย-เดนมาร์ค เป็นประจำอยู่แล้ว ยังคงรักและนิยมดื่มนมไทย-เดนมาร์ค โดยกลุ่มเป้าหมายลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ อายุระหว่าง 13-53 ปี (กลุ่ม Gen Z อายุ 8-20 ปี) ถึง (กลุ่ม Gen X อายุ 38-53 ปี) ที่ชื่นชอบในการค้นหา รับฟังข้อมูลของผลิตภัณฑ์ต่างๆ และกำลังมองหาผลิตภัณฑ์สุขภาพที่มีคุณภาพเพื่อตอบสนองความต้องการในการบริโภคของตนเองได้หันมาสนใจและดื่มนมไทย-เดนมาร์ค มากขึ้น

ซึ่งเห็นว่ากิจกรรมการรณรงค์ดังกล่าวจะได้ประโยชน์ในหลายด้าน อันดับแรกคือ ทำให้แบรนด์ไทย-เดนมาร์ค ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ภายใต้รัฐวิสาหกิจของกระทรวงเกษตรฯ มีรายได้จากอัตราการเติบโตทางการตลาดที่มั่นคงและแข็งแรงยิ่งขึ้น อันดับที่สอง ช่วยรองรับปริมาณน้ำนมดิบของเกษตรกรที่เพิ่มขึ้นในอนาคตซึ่งจะช่วยให้เกษตรกรโคนมไทยไม่ต้องประสบปัญหาน้ำนมล้นตลาดเหมือนในอดีต อันดับที่สาม คือเป็นการส่งเสริมสุขภาพอนามัยที่ดีให้กับคนไทยทั่วประเทศสอดคล้องกับนโยบายสำคัญของรัฐบาลอีกทางหนึ่งด้วย

จากสถิติพบว่าการบริโภคของคนไทยพบว่าดื่มนมเพียง 18 ลิตร/ปี และยังน้อยกว่าที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด ในขณะที่อัตราเฉลี่ยการบริโภคนมของประชากรทั่วโลกอยู่ในระดับ 113 ลิตร/คน/ปี ส่วน WHO กำหนดให้ดื่มนมเฉลี่ย 25 ลิตร/คน/ปี จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่าคนไทยยังดื่มนมน้อยมากกลายสิบเท่าเมื่อเทียบกับนานาประเทศทั่วโลก

ที่ผ่านมาตนได้ให้นโยบายเร่งด่วนแก่ อ.ส.ค. เร่งส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพอาชีพการเลี้ยงโคนมให้แก่เกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทย ให้มีผลผลิตน้ำนมโคที่มีประสิทธิผลและมีประสิทธิภาพมากขึ้นก่อให้เกิดรายได้ที่มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน สามารถอยู่ได้ด้วยตนเอง การส่งเสริมงานวิจัยการเลี้ยงโคนมเพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดให้เกิดประสิทธิภาพในการจัดการฟาร์มโคนมให้แก่เกษตรกรในด้านการผลิต การสนับสนุนให้เกิดการกระจายรายได้ให้แก่เกษตรกร พร้อมทั้งสนับสนุนให้เกษตรกรมีอาชีพการเลี้ยงโคนม เพื่อรองรับความผันผวนจากปัญหาภัยแล้งที่ส่งผลกระทบต่อพืชผลทางการเกษตร และให้ขยายพื้นที่การผลิตน้ำนมเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับเกษตรกรรุ่นใหม่โดยไม่ละทิ้งเกษตรกรรุ่นเก่า.

ด้านนายณรงค์ฤทธิ์ วงศ์สุวรรณ ผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย (อ.ส.ค.) กล่าวว่า ที่ผ่านมาคณะอนุกรรมการรณรงค์การบริโภคนม ได้กำหนดเป้าหมายการเพิ่มปริมาณการดื่มนมของคนไทยจากปริมาณ 18 ลิตรเป็น 25 ลิตร/คน/ปี ภายในปี 2569 ซึ่งนอกจากการบริโภคนมคุณภาพดี ที่ได้มาจากเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทยจะเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยมีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังเป็นส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของกระทรวงเกษตรฯ ในการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนมของไทยและเพิ่มความสามารถในการแข่งขันภาคการเกษตรตามวิสัยทัศน์ของรัฐบาลในการพัฒนาศักยภาพอุตสาหกรรมนมไทยให้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีกด้วย

“กิจกรรมดังกล่าวถือเป็นมหกรรมสร้างการรับรู้ในการบริโภคนมของคนไทยครั้งสำคัญอีกทั้งยังเป็นการรณรงค์ให้เยาวชนไทยหันมาดื่มนมและเปลี่ยนความคิดว่าการดื่มนมเป็นเรื่องล้าสมัย หรือเฉพาะคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง อีกทั้งยังเป็นเวทีในการตอกย้ำภาพลักษณ์ของนมไทย-เดนมาร์ค และองค์กร มุ่งสู่การเป็น “นมแห่งชาติ และแบรนด์อันดับที่ 1 ในใจผู้บริโภคชาวไทย (Top of Mind ) ในอุตสาหกรรมนมภายในปี 2564”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน