นายสุภัทร์ วรวัฒนนุทัย รองผู้อำนวยการฝ่ายด้านปฏิบัติการ ฝ่ายบริการสินค้า การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 พ.ย.ที่ผ่านมา รฟท. ได้เปิดประกวดราคาจ้างจัดบริการ อาหาร เครื่องดื่มและพนักงานบริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ (สปรินเตอร์) ด้วยวิธีประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 199 ล้านบาท โดยจะให้สัมปทานเอกชนที่ชนะการประมูลเข้ามาเข้ามาให้บริการ อาหาร เครื่องดื่มและพนักงานบริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ เป็นระยะเวลา 3 ปี ทั้งนี้ เอกชนที่สนใจจะต้องยื่นข้อเสนอและเสนอราคาทางระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ด้วยอิเล็กทรอนิกส์ในวันที่ 20 ธ.ค. คาดว่าจะประกาศตัวผู้ชนะการประมูลและเริ่มดำเนินการให้บริหารได้ในช่วงต้นปีหน้า
สำหรับขบวนที่จะมีการให้บริการอาหารและเครื่องดื่ม คือขบวนด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศรวม 12 ขบวน อาทิ ขบวนกรุงเทพฯ-ศิลาอาสน-กรุงเทพฯ, กรุงเทพฯ-เชียงใหม่-กรุงเทพฯ, กรุงเทพฯ-อุบลราชธานี-กรุงเทพฯ, กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ, กรุงเทพฯ-ยะลา-กรุงเทพฯ, กรุงเทพฯ-สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพฯ เป็นต้น โดยกำหนดให้ต้องมีการบริการอาหารหนักจำนวน 1 มื้อ และอาหารว่าง คือ น้ำชา กาแฟ และน้ำอัดลมจำนวน 1 มื้อต่อการเดินทาง 1 ครั้ง และต้องมีพนักงานให้บริการ 1 คนต่อ 1 โบกี้
รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ รฟท. ยังไม่ทราบว่ามีเอกชนรายใดมาซื้อซองเพื่อเข้าร่วมประมูลบ้าง เนื่องจากรายชื่ออยู่ในระบบของกรมบัญชีกลาง แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีเอกชน จำนวน 2 รายได้แสดงความสนใจและติดต่อขอรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการประกวดราคาจ้างจัดบริการ อาหาร เครื่องดื่มและพนักงานบริการบนขบวนรถด่วนพิเศษดีเซลรางปรับอากาศ ประกอบด้วย บริษัท ผลิตภัณฑ์อาหารกว้างไพศาล จำกัด (มหาชน) หรือปุ้มปุ้ย ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานในปัจจุบันซึ่งได้รับสัมปทานต่อเนื่องมายาวนานตั้งแต่ปี 2555 หรือ ราว 7 ปีที่แล้ว และ ปีนี้มี บริษัท ส.ขอนแก่นฟู้ดส์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นผู้ประกอบการรายใหม่แสดงความสนใจโครงการ
