นายโสภณ อิงค์ธเนศ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท ไอที ซิตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า หลังจากบริษัทได้เข้าซื้อหุ้นของ บริษัท คอมพิวเตอร์ ซีสเท็ม คอนเน็คชั่น อินเตอร์แนชชั่นแนล จำกัด หรือซีเอสซี ผู้จัดจำหน่ายสินค้าสมาร์ตดีไวซ์ มูลค่ากว่า 336 ล้านบาท และรวมกิจการกันเมื่อกลางปี 2562 ที่ผ่านมา เพื่อเสริมธุรกิจกันและกันช่วยการขยายการเติบโตของทั้งสองบริษัทได้มากขึ้น ทำให้สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งทางด้านธุรกิจ ทั้งในด้านการเข้าถึงผู้บริโภคได้มากขึ้นจากร้านสาขาของทั้งสองบริษัท รวมกันกว่า 280 แห่งทั่วประเทศในปัจจุบัน และแบรนด์สินค้าภายใต้การดูแลของทั้งสองบริษัท ที่มีแบรนด์ดังชั้นนำมากมาย ทำให้เป็นการเพิ่มอำนาจในการต่อรองกับเจ้าของแบรนด์สินค้าให้กับกลุ่มบริษัทได้ดียิ่งขึ้น

โดยได้ประเดิมกิจการการตลาดร่วมกันในการรุกตลาดสมาร์ตดีไวซ์ ทั้ง สมาร์ตโฟน สมาร์ตวอทช์ และอุปกรณ์สินค้าไอทีที่เชื่อมต่อต่างๆ (IoT) ภายใต้แคมเปญทางการตลาด MAX Protectionประกันสองปีที่ดีกว่า ซึ่งได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรแบรนด์สมาร์ตดีไวซ์ อย่าง ซัมซุง, หัวเว่ย, ออปโป้ วีโว่ และเรียลมี เมื่อซื้อเครื่องจะได้รับประกันตัวเครื่อง 2 ปีทันที ไม่ต้องจ่ายเพิ่ม จากปกติจะรับประกัน 6 เดือน และหากลูกค้าสามารถเปลี่ยนเครื่องใหม่ภายใน 30 วัน ในกรณีเครื่องมีปัญหา จากปกติ 7 วัน รวมถึงมีรับการประกันจอแตก 1 ปี และยังมีเครื่องให้ลูกค้ายืมใช้ระหว่างการซ่อมด้วย

“เชื่อว่าแคมเปญนี้จะเป็นเป็นการรับประกันตัวเครื่องสมาร์ตดีไวซ์ที่ดีที่สุดของตลาดในขณะนี้ เนื่องจากมีเงื่อนไขไม่ยุ่งยาก รวดเร็วทันใจ ติดตามสถานการณ์ซ่อมได้โดยผ่านช่องทางต่างๆ ง่ายต่อการเข้ารับบริการเนื่องจากมีสาขาทั่วประเทศของไอทีซิตี้ และซีเอสซี โดยคาดว่าจะช่วยเพิ่มยอดขายในช่วงสิ้นปีให้กับกลุ่มบริษัทได้แน่นอน และแคมเปญนี้จะสิ้นสุดในวันที่ 31 มี.ค. 2563 แต่ถ้าประสบความสำเร็จจะทำไปต่อเนื่อง”

นอกจากนี้ ในปี 2563 กลุ่มบริษัทมีแผนที่จะเพิ่มไลน์สินค้าภายในร้านสาขาให้รองรับกับเทคโนโลยี IOT และ 5G เช่น อุปกรณ์ IOT และสมาร์ตดีไวซ์ที่รองรับ 5G และจะใช้อีคอมเมิร์ซเป็นช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่เป็นเจนเนอเรชั่นวาย (GEN Y) และ GEN Z มากยิ่งขึ้น ขณะที่ยังเดินหน้าขยายสาขาเพิ่มอย่างต่อเนื่องให้ได้ไม่น้อยกว่า 400 สาขาภายในสิ้นปี 2563

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน