ไทวัสดุผุดดิจิตอลสโตร์ ลดงบทุน-ลดพื้นที่ จ้างพนักงานน้อยลง 50% พร้อมปักหมุดใกล้ลูกค้าลงอำเภอเล็ก หนุนปีหน้าทุ่ม 3,500 ล้านบาทเปิดสาขาใหม่ได้เพิ่ม
ไทวัสดุผุดดิจิตอลสโตร์ – นายสุทธิสาร จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มธุรกิจวัสดุก่อสร้าง สินค้าตกแต่งบ้าน บริษัท ซีอาร์ซี ไทวัสดุ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้พัฒนารูปแบบใหม่ของไทวัสดุ ที่เรียกว่า ดิจิตอลสโตร์ ซึ่งได้ทดลองสาขาแรกที่ไทวัสดุ ก่อสร้าง ฮาร์ดแวร์ สุขภัณฑ์ หนองจอก โดยรูปแบบจะมีขนาดเล็กลง จากสาขารูปแบบเดิมเป็นสาขาขนาดใหญ่ 30 ไร่ แต่จะเหลือ 10 ไร่ ทำให้การลงทุนลดลงเหลือ 300 ล้านบาท พื้นที่ขายลดลง 50% หรือประมาณ 10,000 ตร.ม. จากเดิมอยู่ที่ 18,000-20,000 ตร.ม. รวมทั้งมีพนักงานลดลง 50% เหลือประมาณ 50 คน ในขณะที่รายการสินค้าที่จำหน่ายยังเท่าเดิม 20,000 รายการ และที่สำคัญ คือ ได้นำเทคโนโลยีมาใช้อำนวยความสะดวกในการซื้อสินค้าของลูกค้า
“การเปิดสาขาขนาดใหญ่ต้องยอมรับว่าพื้นที่หายากขึ้น ประกอบกับเราอยากอยู่ใกล้บ้านลูกค้ามากขึ้น โดยเฉพาะในอำเภอรองๆ ที่ไม่ใช่อำเภอเมือง ที่เดิมต้องใช้เวลาเดินทางนานมาที่สาขา อยากให้สามารถเดินทางมาได้ในเวลาไม่เกิน 1 ชั่วโมง ทำให้ต้องพัฒนาสาขาที่มีขนาดเล็กลง และมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วย โดยลูกค้าสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น อีซี่ ช็อปปิ้ง บนมือถือก่อนช็อปปิ้งในสาขา และเมื่อต้องการซื้อเพียงสแกนคิวอาร์โค้ดสินค้าที่ต้องการ เลือกจำนวน กดยืนยัน และชำระเงิน ก็จะมีพนักงานช่วยเตรียมสินค้าที่สั่ง จากนั้นลูกค้าสามารถไปรับยังจุดรับสินค้าภายใน 15 นาที”
ขณะเดียวกันลูกค้ายังสามารถซื้อสินค้ารูปแบบอีออร์เดอร์ริ่ง หรือกดสั่งผ่านหน้าจอที่สาขาโดยไม่ต้องเสียเวลาไปเดินเลือกที่แล้วชำระเงินรับสินค้ากลับได้ทันที เพื่อสร้างความสะดวกประหยัดเวลามากขึ้น โดยบริการนี้จะเริ่มได้ในไตรมาสแรกปี 2563 และจากนั้นจะพัฒนาไปเป็นอีคอมเมิร์ซ ให้สามารถสั่งซื้อออนไลน์และจัดส่งถึงบ้านได้ คาดว่าจะเริ่มในปลายไตรมาสแรก หรือต้นไตรมาสที่สองของปีหน้า นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดสาขารูปแบบใหม่นี้อีก 2-3 สาขาในปีหน้า
อย่างไรก็ดีในปี 2563 มีแผนใช้เงินลงทุนเพิ่มขึ้น 3,500 ล้านบาท เปิด 7 สาขาใหม่ แบ่งเป็นสาขาขนาดใหญ่ 5 แห่ง และขนาดเล็ก 2 แห่ง จากปีนี้ใช้ไป 3,000 ล้านบาท เปิด 5 สาขา ได้แก่ สาขานครราชสีมา, นครปฐม, ศรีมหาโพธิ, บ้านฉาง และหนองจอก โดยเชื่อว่าการกระจายสาขาออกสู่หัวเมืองต่างจังหวัดนั้นจะช่วยขยายฐานลูกค้าทั้งเก่าและใหม่เพิ่มขึ้นอีก สำหรับยอดขายปีนี้น่าจะทำได้ 30,000 ล้านบาท เติบโต 20% มาจากการขยายสาขาใหม่ และยอดขายสาขาเดิมเติบโต 8-10% ส่วนในปีหน้าตั้งเป้าหมายเติบโต 15% จากปีนี้
