นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช. มีมติเห็นชอบให้นำคลื่นความถี่ 4 ย่าน ได้แก่ 700 MHz, 1800 MHz, 2600 MHz และ 26 GHz ไปประมูลเพื่อเปิดให้บริการ 5G โดยเป็นการประมูลครั้งละคลื่นความถี่ ในวันที่ 16 ก.พ. 2563 ตามแผนการที่กำหนดไว้ จากนั้นคาดว่าจะออกใบอนุญาตได้ปลายเดือนก.พ. 2563 และผู้รับใบอนุญาตสามารถเริ่มติดตั้งโครงข่ายได้ตั้งแต่เดือนมี.ค. 2563

“ถ้าเป็นไปตามแผนคาดว่า ในเดือนมิ.ย.-ก.ค. 2563 จะสามารถเปิดให้บริการในพื้นที่โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) และย่านใจกลางเมือง ซึ่งการเปิดให้บริการดังกล่าวจะใกล้เคียงกับการเปิดบริการ 5G ของประเทศญี่ปุ่นที่มีกำหนดเปิดให้บริการในช่วงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกในเดือนก.ค. 2563 และจริงๆ คาดหวังจะให้เปิดใช้งานเชิงพาณิชย์ได้บางพื้นที่ได้ในวันที่ 1 พ.ค. 2563 เป็นการเปิดให้บริการก่อนญี่ปุ่น”

อย่างไรก็ดี เชื่อว่าจะมีผู้เข้าร่วมประมูลในครั้งนี้อย่างแน่นอน เพราะอย่างน้อยมีคลื่น 2600 MHz และ 26 GHz มีผู้ประกอบการต้องการ และคาดว่าจะได้เงินจากการประมูลเกือบ 40,000 ล้านบาทอยู่แล้วจาก 2 คลื่นดังกล่าว รวมทั้งคลื่น 700 MHz ที่น่าจะได้เงินประมาณ 16,000-17,000 ล้านบาท ทำให้การประมูลครั้งนี้จะได้เงินกว่า 50,000 ล้านบาท

สำหรับคลื่นความถี่ย่าน 700 MHz จำนวนคลื่นความถี่ที่นำมาประมูล 15 MHz แบ่งออกเป็น 3 ชุดคลื่นความถี่ ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถประมูลได้สูงสุดประมูล 3 ชุด ราคาเริ่มต้นการประมูล 8,792 ล้านบาทต่อชุด เคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 440 ล้านบาท การชำระเงินค่าประมูลแบ่งเป็น 10 งวด งวดละ 10% โดยผู้เข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันการประมูล 2,637.60 ล้านบาท ค่าปรับต่อชุด 1,319 ล้านบาท กรณีไม่มาชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ ส่วนคลื่นความถี่ย่าน 1800 MHz จำนวนคลื่นความถี่ที่นำมาประมูล 35 MHz แบ่งออกเป็น 7 ชุดคลื่นความถี่ ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถประมูลได้สูงสุดประมูล 4 ชุด ราคาเริ่มต้นการประมูล 12,486 ล้านบาทต่อชุด เคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 25 ล้านบาท

และคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz จำนวนคลื่นความถี่ที่นำมาประมูล 190 MHz แบ่งออกเป็น 19 ชุดคลื่นความถี่ ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถประมูลได้สูงสุดประมูล 10 ชุด ราคาเริ่มต้นการประมูล 1,862 ล้านบาทต่อชุด เคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 93 ล้านบาท โดยผู้เข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันการประมูล 1,862 ล้านบาท ค่าปรับต่อชุด 280 ล้านบาท กรณีไม่มาชำระเงินค่าประมูลคลื่นความถี่ ส่วนคลื่นความถี่ย่าน 26 GHz จำนวนคลื่นความถี่ที่นำมาประมูล 2700 MHz แบ่งออกเป็น 27 ชุดคลื่นความถี่ ผู้เข้าร่วมการประมูลสามารถประมูลได้สูงสุดประมูล 12 ชุด ราคาเริ่มต้นการประมูล 423 ล้านบาทต่อชุด เคาะราคาเพิ่มขึ้นครั้งละ 22 ล้านบาท โดยผู้เข้าร่วมการประมูลต้องวางหลักประกันการประมูล 507.60 ล้านบาท ค่าปรับต่อชุด 64 ล้านบาท

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน