รายงานข่าวจาก บริษัทท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2562 ที่ผ่านมา ทอท. ได้ออกประกาศยกเลิกการประกาศประกวดราคาโครงการจัดจ้างเอกชนปฏิบัติการและซ่อมบำรุงรักษาระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระภายในอาคารผู้โดยสารหลัก (Main Terminal Building MTB) และระบบลำเลียงกระเป๋าสัมภาระเปลี่ยนเที่ยวบินภายในอาคารปฏิบัติการกระเป๋าสัมภาระเปลี่ยนเที่ยวบิน (Transfer Baggage Terminal TBT) ณ ท่าอากาศสุวรรณภูมิ ราคากลางในการจัดจ้าง 1,232 ล้านบาท ระยะเวลาสัมปทานรวม 4 ปี ตั้งแต่ 1 ก.พ. 2563-1 ก.พ. 2567
เนื่องจากได้พิจารณาตรวจสอบแล้วว่าเงื่อนไขในเรื่องของคุณสมบัติของผู้ที่ยื่นข้อเสนอในส่วนที่เป็นสาระสำคัญ หรือข้อเสนอราคา อาจส่งกระทบทำให้ผู้เสนอราคาที่เป็นต่างชาติ หรือผู้ที่เชี่ยวชาญที่ผู้มีประสบการณ์จากต่างประเทศไม่สามารถเข้าร่วมแข่งขันในกรณีที่ผู้ยื่นข้อเสนอไม่ต้องการเข้าร่วมในรูปแบบกิจการค้าร่วมได้
รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการกำหนดเงื่อนไขคุณสมบัติผู้เสนอราคาตามทีโออาร์เดิมของโครงการนี้ได้มีการกำหนดคุณสมบัติผู้เสนอราคาที่มีการเฉพาะเจาะจงที่สุ่มเสี่ยงต่อการกีดกันการเข้าแข่งขันเสนอราคา ใน3หัวข้อคือมีการกำหนดว่า 1. ผู้เสนอราคาต้องเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนตามกฎหมายไทย หรือ 2. ต้องเป็นนิติบุคคลที่ได้รับอนุยาติให้ประกอบกิจการวิชาชีพวิศวกรรมควบคุมตามพระราชบัญญัติวิศวกร พ.ศ.2542 หรือ 3. ต้องเป็นนิติบุคคลที่ได้รับการรับรองระบบบริหารคุณภาพ ISO9001 เท่านั้น
รวมทั้งเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2562 ที่ผ่านมาคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ กรมบัญชีกลาง ยังได้ส่งหนังสือเกี่ยวกับ แนวทางปฏิบัติในการกำหนดคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอและการกำหนดผลงานมายังทอท.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยห้ามมิให้หน่วยงานต่างๆ กำหนดเงื่อนไขเรื่องคุณสมบัติของผู้ยื่นข้อเสนอราคา หรือการกำหยดผลงานที่ไม่เป็นธรรมและเป็นการกีดกันการเข้าแข่งขันเสนอราคา
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้โครงการดังกล่าวได้ถูกเอกชนรายหนึ่งร้องคัดค้านทีโออาร์ของ ทอท. ว่าไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับเกณฑ์มูลค่าผลงานของเอกชนที่จะเข้าร่วมประมูล โดยมองว่าการที่ ทอท. กำหนดมูลค่าประสบการณ์และผลงานในอดีตของผู้เข้าร่วมประมูล 5 ปีย้อนหลัง จะต้องไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาทนั้น เป็นการล็อกสเป๊กให้เอกชนรายใหญ่ และยังเป็นการปิดทางรายย่อยไม่ให้เข้าร่วมประมูล
