นายถาวร เสนเนียม รมช.คมนาคม เปิดเผยภายหลังการประชุมเพื่อมอบนโยบายแก่ บริษัท ไทย-อะมาดิอุส เซาท์อีสต์เอเชีย จำกัด ผู้ให้บริการจำหน่ายตั๋วโดยสารของสายการบินไทยสมายล์ และการบินไทย ซึ่งเป็นบริษัทลูกที่บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นอยู่ 100% ว่า ในส่วนของไทย-อะมาดิอุสฯ ได้ขอให้ปรับกลยุทธ์ในการขายตั๋วโดยเน้นขายลูกค้า โรงแรม บริการรถเช่า รถไฟฟ้า และขยายฐานการขายตั๋วลูกค้าไปยังกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวี (CLMV) 4 ประเทศ คือกัมพูชา , สปป.ลาว, เวียดนาม และเมียนมา

สำหรับไทยสมายล์ นั้น ทางผู้บริหารยืนยันว่าปี 2563 บริษัทจะกลับมามีผลประกอบการที่กำไร จากที่ปีก่อนที่มีผลขาดทุน 2 พันล้านบาท เบื้องต้นได้ขอให้ไทยสมายล์ เร่งลดต้นทุนและเพิ่มรายได้ ด้วยการขยายการให้บริการด้านขนส่งสินค้าทางอากาศ เช่น การขนส่งผลไม้ จากจีนมากไทยผ่านการขายของอาลีบาบา รวมทั้งเพิ่มชั่วโมงการทำการบินให้มากขึ้นจากวันละ 8 ชั่วโมง 15 นาที เป็น 10 ชั่วโมง 30 นาที เพื่อให้คุ้มค่าต้นทุน

นอกจากนี้ ต้องทำให้การเชื่อมต่อเที่ยวบินระหว่างสายการบินไทยสมายล์ และสายการบินไทยสะดวกมากขึ้น ด้วยการขอความร่วมมือกับบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ให้เที่ยวบินการบินไทยมีหลุมจอด ไม่ใช่จอดในจุดที่ผู้โดยสารต้องขึ้นรถบัสต่อเพื่อไปยังอาคาร (บัสเกต) เหมือนในปัจจุบัน หากทำได้จะทำให้ผู้โดยสารที่ลงจากเครื่องการบินไทยสามารถเดินเชื่อมต่อขึ้นเครื่องของไทยสมายล์ได้ทันที รวมทั้งสั่งให้ไทยสมายล์ รวบรวมผลการดำเนินงานในรอบ 6-7 ปี, มาตรการการแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเปิดน่านฟ้าเสรี และแผนการบริหารเส้นทางการบินเสนอให้ตนพิจารณาภายใน 1 สัปดาห์

นายถาวร กล่าวต่อว่าระหว่างมอบนโยบายได้มีการหารือถึงผลกระทบของสายการบินไทย และไทยมายล์ ที่เกิดจากการเปิดน่าฟ้าเสรีของประเทศไทย เบื้องต้นสั่งการให้ นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ การบินไทย ทำหน้าที่รวบรวมปัญหาและผลกระทบที่เกิดขึ้น รวมทั้งให้มีการจัดตั้งคณะทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาสายการบินแห่งชาติ ที่เกิดจากการเปิดน่านฟ้าเสรี เพราะสายการบินไทยนั้น มีการถือหุ้นโดยกระทรวงการคลัง ขณะที่การบินไทยก็ถือหุ้นในไทยสมายล์ 100% เท่ากับว่า 2 สายการบินนี้ เป็นสายการบินห่งชาติ ซึ่งตนมองว่าสายการบินแห่งชาติจะต้องได้รับสิทธิพิเศษเหนือสายการบินอื่นๆ โดยรัฐบาลจำเป็นต้องดูแล รวมทั้งจะต้องมีการหารือร่วมกับคณะกรรมการจัดตารางการบินแห่งชาติด้วย

“ได้สั่งให้นายสุเมธ รวบรวมปัญหาของการบินไทย และไทยสมายล์ มาเสนอกระทรวงคมนาคมโดยเร็ว ส่วนการตั้งคณะทำงานแก้ไขปัญหาสายการบินแห่งชาติ นั้นจะทำงานคู่ขนานไป โดยคณะทำงานจะประกอบไปด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งการบินไทย ไทยสมายล์ บริษัท วิทยุการบิน จำกัด บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กรมท่าอากาศยาน สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เพื่อหามาตรการช่วยเหลือสายการบินแห่งชาติ เช่น อาจจะต้องมีการปรับเส้นทางการบินให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น มีการปรับลดค่าธรรมเนียมการใช้สนามบินให้กับ การบินไทย และไทยสมายล์ เป็นต้น”

นายสุเมธ กล่าวต่อว่า มาตรการช่วยเหลือสายการบินแห่งชาติ เช่น จัดสล็อตที่ดี ลดค่าธรรมเนียมลงจอด นั้นอาจจะต้องเป็นรูปแบบการขอความร่วมมือไปยัง ทอท. หรือ กพท. และต้องทำความเข้าใจร่วมกันว่าถือเป็นยุทธศาสตร์การขนส่งระหว่างประเทศ จะต้องมีการบูรณาการร่วมกันกับกระทรวงการคลังซึ่งเป็นผู้ถือหุ้น

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้การบินไทย ได้จัดทำการศึกษาผลกระทบจากการเปิดน่านฟ้าเสรีเสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหว่างเตรียมเสนอให้กระทรวงคมนาคมพิจารณา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน