น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร) เมื่อวันที่ 21 ม.ค. 2563 ที่จ.นราธิวาส ที่ประชุมเห็นชอบ 3 มาตรการที่เป็นโครงการพัฒนาพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ได้แก่ การพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ การจัดสรรที่ดินทำกิน 1,855 ไร่ และการตั้ง “สภาสันติสุขตำบล” เพื่อการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำหนดโครงการพัฒนา

ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษ นั้นเป็นโครงการต่อเนื่องตามนโยบายที่รัฐบาลต้องการขยายผลเมืองต้นแบบตามนโยบายสามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคัง ยั่งยืน ที่ได้เห็นชอบรัฐบาลเห็นชอบ อ.จะนะ จ.สงขลา เป็นเมืองต้นแบบที่ 4 ในการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต เนื่องจากในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ ยังไม่มีนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับแรงงานในพื้นที่ที่มีอยู่มาก และเป็นพื้นที่ทีมีความพร้อมด้านกายภาพ เป็นพื้นที่ชายฝั่ง จึงมีความเหมาะสมที่จะดำเนินการท่าเรือน้ำลึก เพื่อให้นิคมอุตสาหกรรมที่จะเกิดขึ้นสามารถใช้ประโยชน์จากการนำเข้าและส่งออกสินค้าได้อย่างสะดวก

ครม. ครั้งนี้ จึงอนุมัติในหลักการของแผนเร่งด่วนการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งประกอบด้วยการดำเนินการด้านผังเมือง ซึ่งจะตั้งในพื้นที่ 3 ตำบล ได้แก่ นาทับ ตลิ่งชัน และสะกอม ด้านโครงข่ายการขนส่งทางน้ำ ที่จะดำเนินโครงการท่าเรือน้ำลึกสงขลา ด้านโครงข่ายการขนส่งทางบกซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนแม่บทจราจรเชื่อมทางหลวง ทางหลวงชนบท ถนนองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และด้านพลังงาน ที่ต้องมีโรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงจากก๊าซธรรมชาติ/ชีวมวล แสงอาทิตย์ ลม

“การพัฒนาภายใต้โครงการนี้จะครอบคลุมพื้นที่ 16,753 ไร่ ใช้เงินลงทุนประมาณ 18,680 ล้านบาท โดยคาดว่าจะก่อให้เกิดการจ้างงานประมาณ 1 แสนอัตรา มีกิจกรรม 6 ประเภท ได้แก่ 1. พื้นที่เขตอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมเบา จำนวน 4,253 ไร่ 2. พื้นที่อุตสาหกรรมหนัก จำนวน 4,000 ไร่ 3. พื้นที่เขตอุตสาหกรรมผลิตไฟฟ้า จำนวน 4,000 ไร่ จำนวน 4 โรง กำลังผลิตรวม 3,700 เมกะวัตต์ 4. พื้นที่เขตอุตสาหกรรมต่อเนื่องกับกิจกรรมหลังท่าเรือ จำนวน 2,000 ไร่ 5. พื้นที่เขตอุตสาหกรรมศูนย์รวมและกระจายสินค้า จำนวน 2,000 ไร่ และ 6. พื้นที่ศูนย์บริการเบ็ดเสร็จและแหล่งที่พักอาศัย จำนวน 500 ไร่”

น.ส.รัชดา กล่าวว่า ครม. ยังเห็นชอบแผนการขับเคลื่อนการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส ซึ่งเป็นแผนบริหารจัดการที่ดินสำหรับการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษนราธิวาส ให้ศอ.บต. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบจัดซื้อที่ดินเอกชน คือ บริษัทสวนยางไทย จำนวน 1,683 ไร่ ในพื้นที่ อ.ยี่งอ และ อ.เมืองนราธิวาส ในกรอบวงเงิน 390 ล้านบาท การบริหารจัดการที่ดิน แบ่งเป็น 3 ส่วน

ประกอบด้วย 1. ให้การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยเช่า จำนวน 600 ไร่ ในพื้นที่ ต.ละหาร อ.ยี่งอ เพื่อจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรม ตามอำนาจหน้าที่ของการนิคมแห่งประเทศไทย 2. ให้เอกชนเช่า เนื้อที่รวม 1,003 ไร่ โดยกรมธนารักษ์เปิดประมูลเพื่อสรรหาผู้ลงทุนตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนด และ 3. เป็นพื้นที่สำหรับใช้ประโยชน์ของทางราชการในพื้นที่ ต.ละหาร อ.ยี่งอ พื้นที่รวม 79 ไร่ เช่น สร้างศูนย์อบรมพัฒนาทักษะแรงงานเพื่อรองรับนิคมอุตสาหกรรมและการลงทุนและการพัฒนาและส่งเสริมนักธุรกิจรุ่นใหม่ยุค 4.0

และ ครม. ยังเห็นชอบโครงการจัดสรรที่ดินทำกินให้กับประชาชนใน จ.นราธิวาส รวม 1,855 ไร่ ใน จ.นราธิวาส โดยการออกพระราชกฤษฎีกา (พรฎ.) กำหนดเขตที่ดินทำกิน 3 ฉบับ กำหนดพื้นที่ดังนี้ 1. ท้องที่ ต.ปูโยะ ต.มูโนะ อ.สุไหงโก-ลก เนื้อที่ประมาณ 542 ไร่ 2. ท้องที่ ต.ปะลุรู ต.โต๊ะเต็ง และ ต.ริโก๋ อ.สุไหงปาดี 266 ไร่ และ 3. ท้องที่ ต.บางปอ อ.เมืองนราธิวาส และ ต.ดุซงญอ ต.ช้างเผือก ต.จะแนะ อ.จะแนะ 1,047 ไร่

ประเด็นสุดท้าย ที่ครม. เห็นชอบเกี่ยวกับพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดน เป็นโครงการด้านความมั่นคงและสังคม โดยเห็นชอบกรอบแนวทางการพัฒนาเพื่อเสริมความมั่นคงผ่านโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืนของศูนย์อำนวยการบริหารจัดการจังหวัดชายแดนใต้ (ศอ.บต.) โดยให้มีสภาสันติสุขตำบลเป็นกลไกในการบริหารราชการระดับตำบล ขับเคลื่อนโครงการฯ โดยให้นายอำเภอมีอำนาจแต่งตั้งสภาสันติสุขตำบล ประกอบด้วย 5 ภาคส่วน ได้แก่ 1. ภาคส่วนราชการที่เป็นเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานในตำบล เช่น ปลัดอำเภอ ทหาร ตำรวจ พัฒนากร 2. ผู้ปกครองท้องที่ เช่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน 3. องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 4. ผู้นำศาสนาหรือองค์กรศาสนาทุกศาสนาในพื้นที่ตำบล และ 5. ภาคประชาชน เช่น ปราชญ์ชาวบ้าน ตัวแทนกลุ่มเยาวชน กลุ่มสตรี

นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทั้ง 3 โครงการที่ครม. เห็นชอบในครั้งนี้ จะยังไม่ได้จัดสรรงบประมาณลงมาทันที เพราะต้องนำกรอบการทำงานไปหารือระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดูว่าส่วนใดอยู่ในความดูแลของหน่วยงานไหน เพื่อจัดทำรายละเอียดเสนอเป็นงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ของแต่ละหน่วยงานต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน