รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 12 ก.พ. 2563 นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ได้เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับการบริหารหนี้สาธารณะ ครั้งที่ 1/2563 โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ตัวแทนสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมการประชุม
ทั้งนี้ ในการประชุม นายอุตตม รมว.คลัง ได้ให้นโยบายแก่ สบน.ไปพิจารณาถึงความเหมาะสมในการก่อหนี้เพิ่มเติมเพื่อเตรียมพร้อมใช้ในโครงการลงทุนใหม่ของรัฐบาล รองรับการเบิกจ่ายพ.ร.บ.งบประมาณปี 2563 ที่คาดว่าจะมีความล่าช้าออกไป โดยการก่อหนี้เพิ่มจะเป็นหนึ่งในแนวทาง ที่รัฐบาลเตรียมนำมาใช้เพื่อลดผลกระทบจากการเบิกจ่ายงบประมาณล่าช้า โดยเฉพาะโครงการลงทุนใหม่ที่จะไม่สามารถเบิกได้หากงบประมาณยังไม่ผ่านความเห็นชอบ
“การประชุมครั้งนี้ นอกจากจะหารือถึงการพิจารณาปรับแผนการก่อหนี้สาธารณะ ซึ่งมีการประชุมทบทวนเป็นประจำเกือบทุกไตรมาส ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตลาดตราสารหนี้ ทิศทางดอกเบี้ย ความจำเป็นในการใช้งบประมาณ และรายจ่ายของประเทศแล้ว รมว.คลัง ยังให้การบ้านแก่ สบน.ไปศึกษาการก่อหนี้เพื่อสนับสนุนการลงทุนของรัฐบาลทดแทนการเบิกจ่ายงบที่ล่าช้าด้วย ส่วนจะมีการก่อหนี้เพิ่มเท่าไรนั้นยังระบุไม่ได้ เพราะต้องรอให้ สบน.ทำการศึกษาก่อน กลับมาเสนอให้นายอุตตม พิจารณาอีกครั้งภายในเดือนก.พ.นี้”
นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง กล่าวว่า การที่มีข้อเสนอให้กระทรวงการคลัง พิจารณาหาช่องทางกู้เงินมาใช้ลงทุน รวมถึงการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานขึ้นมาระดมทุนจากประชาชนและภาคเอกชน เพื่อใช้ลงทุนโครงการใหม่ของรัฐบาลนั้น จะต้องมีการพิจารณารายละเอียด และความเหมาะสมก่อน อย่างไรก็ตามในส่วนของขั้นตอนการจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 หลังจากนี้ ในส่วนแรกจะเป็นการดำเนินการของสภาผู้แทนราษฎร โดยวิปรัฐบาลและวิปฝ่ายค้านต้องหารือกันเพื่อกำหนดวันการประชุมลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.ในวาระ 2 และ3
“หลังจากนั้นจะมีการเสนอให้สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ลงมติต่อ โดยกระบวนการทั้งหมด มีความเป็นไปได้ว่างบประมาณปี 2563 จะใช้ได้ทันภายในเดือนมี.ค.นี้ ซึ่งในส่วนของกระทรวงการคลังกำลังประสานหารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อขอให้ใช้งบประมาณได้ทันที เมื่อกระบวนการพิจารณาเสร็จภายในเดือนมี.ค.นี้”
