เรือโทกมลศักดิ์ พรหมประยูร ผอ.การท่าเรือแห่งประเทศไทย (กทท.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานให้บริการเรือ สินค้า และตู้สินค้าผ่านท่าเรือกรุงเทพ (ทกท.) ท่าเรือแหลมฉบัง (ทลฉ.) ท่าเรือพาณิชย์เชียงแสน (ทชส.) ท่าเรือเชียงของ (ทชข.) และท่าเรือระนอง (ทรน.) ไตรมาสแรก ประจำปีงบประมาณ 2563 (ต.ค.-ธ.ค. 2562) โดยเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน สรุปดังนี้ ทกท. เรือเทียบท่า 999 เที่ยว เพิ่มขึ้น 8.82% สินค้าผ่านท่า 5.471 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 5.65% ตู้สินค้าผ่านท่า 3.787 แสนที.อี.ยู. เพิ่มขึ้น 3.50%, ทลฉ. เรือเทียบท่า 2,457 เที่ยว ลดลง 2.73% สินค้าผ่านท่า 43.763 ล้านตัน ลดลง 5.99%

ตู้สินค้าผ่านท่า 1.999 ล้านที.อี.ยู. ลดลง 4.01%, ทชส. เรือเทียบท่า 1,183 เที่ยว เพิ่มขึ้น 36.77% สินค้าผ่านท่า 84,683 ตัน เพิ่มขึ้น 33.00% ตู้สินค้าผ่านท่า 1,860 ตู้ เพิ่มขึ้น 55.48%, ทชข. เรือเทียบท่า 102 เที่ยว ลดลง 329.41% สินค้าผ่านท่า 726 ตัน ลดลง 2,153.32% และทรน. เรือเทียบท่า 70 เที่ยว ลดลง 18.57% สินค้าผ่านท่า 31,736 ตัน ลดลง 2.22% ตู้สินค้าผ่านท่า 781 ตู้ เพิ่มขึ้น 26.76%

“ในช่วง 3 เดือนแรก หรือไตรมาสแรก กทท. มีตู้สินค้าผ่านท่าทั้งที่ ทกท. และ ทลฉ. รวม 2.337 ล้านที.อี.ยู. มีอัตราเติบโตลดลง 2.88% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมรายได้ไตรมาสแรกปีงบประมาณ 2563 เป็นจำนวน 3,624 ล้านบาท ทั้งนี้ สถานการณ์นำเข้า-ส่งออกของไทยยังมีแนวโน้มหดตัว เนื่องจากได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งค่าเงินบาทที่ยังคงแข็งตัวต่อเนื่อง”

อย่างไรก็ตาม จากการปรับตัวของการส่งออกสินค้าบางรายการที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับนโยบาย การกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมทั้งการลงนามข้อตกลงการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐ-ประชาชนจีน ฉบับที่ 1 เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2563 เป็นสัญญาณที่ดี คาดว่าจะช่วยลดความตึงเครียด ทางการค้าลงและส่งผลดีสำหรับสหรัฐและจีน และประเทศอื่นๆ ทั่วโลก

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน