นายชารัด เมห์โรทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค กล่าวว่า หลังจากได้เข้าร่วมประมูล 5G ที่ผ่านมา และดีแทคประมูลได้คลื่นความถี่ย่าน 26 GHz จำนวน 2 ชุดคลื่น รวมทั้งหมด 200 MHz ด้วยเงินรวม 910.4 ล้านบาท ซึ่งดีแทคจะนำคลื่น 26 GHz มาทำ 5G และจะเปิดให้บริการในไตรมาสที่ 2 ของปีนี้ เนื่องจากคลื่น 26 GHz เป็นคลื่นที่มีย่านความถี่ที่กว้าง และมีความเร็วสูง ซึ่งจะมาเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของลูกค้าในความเร็วที่สูงขึ้น

“ขณะนี้ดีแทคพร้อมแล้วในการให้บริการทั้งคลื่นความถี่ทั้งย่านต่ำ กลาง และสูง จากเดิมดีแทคมีคลื่นความถี่ครอบคลุมในย่านกลุ่มต่ำ คือ 700 MHz และ900 MHz และคลื่นความถี่ในย่านกลุ่มกลาง คือ 1800 MHz, 2100 MHz และ 2300 MHz โดยสิ่งที่ขาดหายไป คือ คลื่นในย่านสูง และการได้คลื่น 26 GHz จะมาเติมเต็ม และทำให้ดีแทคมีคลื่นที่ครอบคลุมในการพัฒนาโครงข่ายให้มีประสิทธิภาพรองรับการใช้งานของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น โดยปีนี้วางเงินลงทุนไว้ประมาณ 13,000-14,000 ล้านบาทสำหรับพัฒนาโครงข่าย และเพิ่มสถานีฐานโครงข่ายให้ได้มากกว่า 20,000 สถานีฐานทั่วประเทศ จากปัจจุบันมีอยู่ 17,000 สถานีฐาน”

อย่างไรก็ดี การประมูลที่ผ่านมาดีแทคตั้งใจเลือกประมูลแค่คลื่น 26 GHz จำนวน 2 ชุดคลื่น ซึ่งเป็นช่วงคลื่นที่อยู่ฝั่งขวาสุดคือ 26.8-27.0 MHz เพราะเป็นช่วงที่ได้เปรียบและคาบเกี่ยวกับคลื่น 28 GHz โดยเป็นอีกหนึ่งคลื่นสำหรับมาตรฐานในการทำ 5G ซึ่งในอนาคตอาจจะมีการประมูลคลื่นดังกล่าว และดีแทคมองว่าการมีทั้งสองคลื่นจะช่วยให้มีความยืดหยุ่นในการให้บริการ 5G ได้ดี โดยดีแทคจะนำคลื่นความถี่ย่าน 26 GHz จำนวน 200 MHz ที่ได้มานำมาให้บริการ 5G ในรูปแบบอินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ไร้สายประจำที่ ซึ่งจะทำความเร็วได้สูงสุด 1Gbps

นอกจากนี้จะขยายโครงข่าย 5G บนคลื่น 700 MHz เพื่อเพิ่มการครอบคลุมใช้งาน 5G โดยเฉพาะในส่วนภูมิภาคของประเทศ โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มติดตั้งโครงข่ายได้ในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ และในปีนี้ดีแทคมีแผนพัฒนานวัตกรรมบริการต่างๆ ซึ่งรวมถึงการใช้งาน 5G ไร้สายความเร็วสูง อินเตอร์เน็ตไร้สายความเร็วสูงประจำที่ และคอนเทนต์รูปแบบใหม่ โซลูชั่นอินเตอร์เน็ตของสรรพสิ่ง หรือ IoT สำหรับอุตสาหกรรม และพัฒนารูปแบบใช้งานให้รองรับกับความต้องการของตลาด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน